เมื่อโลกปัจจุบันก้าวเข้าสู่ยุคของความเจริญรุ่งเรืองด้านไอที การเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ก็มีให้เห็นกันมากขึ้น เริ่มแรกของนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ทำการคิดค้น คอมพิวเตอร์ นั้น มาจากการใช้ลูกคิดในการคิดคำนวณ ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ซึ่งลูกคิดนั้นได้ถูกคิดค้นครั้งแรกมาจากประเทศจีนและได้มีการใช้เครื่องคำนวณแบบลูกคิดนี้อย่างแพร่หลายจนนำไปสู่

การคิดค้นเครื่องคำนวณแบบใหม่ คือคอมพิวเตอร์นั่นเอง คอมพิวเตอร์นั้นได้นำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะในด้านระบบ รูปแบบ รูปทรง เพื่อให้เข้ากับยุคและสมัยที่เปลี่ยนไป ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำงานได้อีกด้วย
เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง คอมพิวเตอร์ อย่างไรและด้านใดบ้าง
- คอมพิวเตอร์เครื่องแรกในยุคแรกๆนั้น จะเป็นแบบการใช้วงจรไฟฟ้าและวงจรอิเล็กทรอนิกส์หรือเรียกว่า “ระบบสูญญากาศ”ทำให้ต้องใช้กำลังไฟฟ้าสูงมาก อีกอย่างมีราคาที่สูงพอสมควร แบบการจัดเก็บข้อมูลเป็นแบบบัตรเจาะรู ภาษาในระบบก็ใช้แบบการใส่รหัสยากต่อการใช้งาน อีกทั้งต้องติดตั้งในห้องที่มีบริเวณพื้นที่กว้างและเย็นเพราะเครื่องมีความร้อนสูงมากในขณะที่ใช้งาน
- ในปี ค.ศ. 1959 นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาคอมพิวเตอร์ให้มีขนาดเล็ก เพื่อประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งสิ่งสำคัญคือใช้กำลังไฟน้อยและมีราคาถูก เนื่องจากในตอนนั้นได้มีการคิดค้นระบบแบบทรานซิสเตอร์ขึ้นมาจากการได้ทดลองใช้ผลตอบรับของระบบทรานซิสเตอร์นั้นสามารถทำงานใด้ดีกว่าระบบเดิมสูญญากาศ ที่จะต้องใช้กำลังไฟสูง การประมาลผลเร็วขึ้น มีความแม่นยำมากขึ้นอีกด้วย
- ในปี ค.ศ.1965 ในปีนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้เป็นระบบวงจรรวม และประดิษฐ์แผ่นเก็บข้อมูลให้มีความเล็กลงแต่สามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้น การพัฒนาในครั้งนี้ ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ มีขนาดเล็กลงจากรุ่นก่อน ราคาก็ย่อมถูกลงตาม ประสิทธิภาพการคำนวณ การประมาณผลมีความแม่นยำสูงสุด ระบบนี้ถูกเรียกว่า”ระบบไอซี” และสามารถทำงานอย่างอื่นนอกเหนือจากการคำนวณได้อีกด้วย
- จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีนั้นทำให้คอมพิวเตอร์ได้มีการพัฒนาตามด้วยเช่นกัน โดยในยุคสมัยปีค.ศ.1971-1989 นี้ คอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจของนักบริหารและผู้คน นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ญี่ปุ่นได้มีการคิดค้นระบบของคอมพิวเตอร์ให้สามารถตัดสินใจแทนมนุษย์ได้ โดยได้รวมระบบต่าง ๆ เช่นDatabase, Software, Wide Area Networks, เป็นต้น การรวมเอาระบบเหล่านี้มาไว้ด้วยกัน ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้หลากหลาย สามารถตัดสินใจเองได้ และเข้ามามีบทบาทในชีวิตของมนุษย์มากขึ้นจนมาถึงปัจจุบัน

จะเห็นได้ว่าการพัฒนาของคอมพิวเตอร์รวมถึงระบบของคอมพิวเตอร์นั้น หากไม่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องก็จะไม่สามารถพัฒนาได้ทั้งหมด ถ้าเราจะต้องใช้แค่นักวิทยาศาสตร์และความคิดเพียงอย่างเดียว ทุกอย่างย่อมมีเหตุมีผลและเป็นปัจจัยหลักของกันและกันในการพัฒนาโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามการพัฒนาเหล่านี้จะยังไม่สิ้นสุดตราบใดที่ยังมีนักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอยู่ควบคู่กับไป