ต่อต้านการฉีดวัคซีน ที่ Royal Society for Public Health หรือ RSPH ของประเทศอังกฤษได้พบว่ามีข้อความต่อต้านการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด – 19 ผ่าน WhatsApp โดยเฉพาะการส่งข้อความผ่านกลุ่มการสื่อสารของชุมชนต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ ทั้งชุมชนผู้ที่มีสัญชาติทางทวีปเอเซีย ชุมชนของศาสนาคริสต์บางนิกาย ทั้งนี้ข้อความที่มีการเผยแพร่นั้นจะมีเนื้อหาเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่เผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียอื่นๆ

ต่อต้านการฉีดวัคซีน ป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่มีการส่งข้อความผ่านกลุ่มการสื่อสารของชุมชนต่างๆ
โดยจะเป็นข้อความที่อธิบายว่าการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 นั้น จะมีการฉีดไมโครชิพเข้าไปฝั่งในร่างกายเพื่อใช้สำหรับติดตามตัว และอาจจะมีการเปลี่ยนดีเอ็นเอในร่างกายมนุษย์ได้อีกด้วย ทั้งนี้หน่วยงานสาธารสุขของประเทศอังกฤษอย่าง RSPH อธิบายว่าแนวความคิดและข้อความดังกล่าวเป็นการนำเสนอข้อมูลที่ไร้สาระและไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับต่อข้อความการต่อต้านวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่มีการส่งต่อกันบนโลกออนไลน์ ทั้งนี้ได้มีการใช้เทคโนโลยีการตรวจจับข้อความดังกล่าว เพื่อควบคุมการแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง พร้อมทั้งร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกและหน่วยงานอื่นๆ ที่น่าเชื่อถือ สำหรับพัฒนาแชทบอทเพื่อช่วยในการตอบคำถามเกี่ยวการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งหมด

ในขณะที่องค์อิสระที่รณรงค์เกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเชื้อชาติในประเทศอังกฤษ ได้ให้ความเห็นว่ามีความเป็นห่วงต่อชนกลุ่มน้อยจากกลุ่มประเทศต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษและเป็นผู้ที่มีรายได้น้อย อาจจะไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้ และอาจจะเป็นกลุ่มที่สร้างผลกระทบให้กับประเทศอังกฤษได้มากที่สุด ทั้งนี้ได้มีการสำรวจความคิดเห็นกับบุคคลทั่วไปที่อยู่ในวัยทำงาน จำนวนมากกว่า 2,000 คน ทั่วประเทศอังกฤษ ซึ่งทำให้เห็นถึงระดับความเชื่อมั่นและไว้วางใจต่อกระบวนการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19

โดยการสำรวจตัวอย่าง พบว่า มีบุคคลจำนวน 3 ใน 4 ของการสำรวจจะได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสดควิด-19 หากได้รับคำแนะนำที่เพียงพอจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพ ส่วนกลุ่มที่มีรายได้น้อยไม่มั่นใจว่าจะมีเงินเพียงพอต่อการเข้ารับการฉีดวัคซีน นอกจากนี้แล้วประมาณ 84% ของผู้มีรายได้สูงวางแผนจะเข้ารับการฉีดวัคซีน ถ้าแยกตามภูมิภาคของกลุ่มที่ไม่ได้มีสัญชาติอังกฤษ พบว่า กลุ่มคนที่มาจากทวีปเอเซียจะเข้ารับการฉีดวัคซีนน้อยที่สุด แต่พิจารณาจากเพศจะพบว่า ผู้ชายเต็มใจเข้ารับการฉีดวัคซีนมากกว่าผู้หญิง ทั้งนี้จากผลสำรวจดังกล่าวหน่วยงานสาธารณสุขของประเทศอังกฤษจะต้องทำงานเชิงรุกกับกลุ่มคนที่มาจากทวีปเอเซียให้เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
ติดตามข่าวสารอีกมากมายของเราได้ที่ ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ได้ที่นี่ และ หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค ของประเทศบราซิลที่ไม่พอใจไอโฟน ที่ไม่แถมที่ชาร์จมาให้ในกล่อง