Search results
20 results found.
20 results found.
vivo X90s สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอัพเกรดจากvivo X90 Proที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของมันจะเหมือนกับ X90 Series แต่สเปคด้านในก็มีการอัพเกรดให้แรงขึ้นด้วยชิปเซ็ต Dimensity 9200+ ที่ให้ขุมพลังแรงระดับ 3.35GHz แสดงผลผ่านจอแบบ AMOLED ความกว้าง 6.78 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz และมีกล้องหลังที่พัฒนาโดย ZEISS จำนวน 3 ตัว ความคมชัดสูงสุด 50MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,810mAh รองรับระบบชาร์จไวถึง 120W ผ่าน USB Type-C 2.0
vivo X90s เรือธงรุ่นอัพเกรดจากตระกูล X90 Series ที่เพิ่งวางขายอย่างเป็นทางการในบ้านเราไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยคราวนี้มันยังคงใช้ดีไซน์แบบเดียวกับ X90 และ X90 Pro มีขนาดและน้ำหนักแทบจะเท่ากัน และตัวเครื่องยังรองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP64 ด้วย ติดตั้งหน้าจอแบบ AMOLED ความกว้าง 6.78 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ ใช้สัดส่วนแบบ 20:9 มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 453ppi รีเฟรชเรท 120Hz รองรับ HDR10+ ปรับความสว่างได้ถึงระดับ 1300 nit และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบด้วยอินเตอร์เฟส OriginOS 3 ใช้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดของ MediaTek อย่าง Dimensity 9200+ ขนาด 4 นาโนเมตร ให้ขุมพลังแรง 3.35GHz ทำงานร่วมกับจีพียู Immortalis-G715 MC11 มีหน่วยความจำ RAM ขนาดสูงสุด 12GB (LPDDR5X) และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในแบบ UFS 4.0 ความจุสูงสุด 512GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4.810mAh รองรับระบบชาร์จไว 120W ข่าวไอดีคอมพิวเตอร์
นอกจากนี้vivo X90sยังมาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวที่พัฒนาโดย ZEISS ความคมชัด 50MP+12MP+12MP พ่วงระบบ Laser AF และ OIS พร้อมชิปประมวลผลภาพถ่าย V2 ที่ทาง vivo พัฒนาขึ้นเอง รองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ส่วนกล้องหน้ามีความคมชัด 32MP ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูตรงกลางด้านบนหน้าจอ รองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ในส่วนของการเชื่อมต่อต่าง ๆ รองรับทั้ง 5G, Wi-Fi7, Bluetooth 5.3, USB Type-C 2.0 และ NFC
สำหรับvivo X90sเริ่มเปิดให้ผู้ที่สนใจสั่งแบบพรีออเดอร์แล้วในประเทศจีน gclub สนนราคารุ่นเริ่มต้นอยู่ที่ 3,999 หยวน หรือประมาณ 19,xxx บาท แต่ยังไม่มีกำหนดการวางขายแบบ gclub ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งต้องรอติดตามข่าวกันอีกทีหนึ่ง
vivo Y77 5G ว่าที่มือถือระดับมิดเรนจ์รุ่นใหม่ที่ก่อนหน้านี้มีข้อมูลบางส่วนไปโผล่บนเว็บไซต์ TENAA ของประเทศจีน แถมล่าสุดได้มีแหล่งข่าวบนโลกออนไลน์ออกมาปล่อยข้อมูลสเปคของมันออกมาเพิ่มเติม ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ โดยเบื้องต้นคาดว่ามันจะมาพร้อมจอ AMOLED ความกว้าง 6.67 นิ้ว ขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปแบบ octa-core ที่ให้ขุมพลังสูงสุด 2.2GHz และมีกล้องหลังแบบคู่ ความละเอียดสูงสุด 50MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,380mAh รองรับระบบชาร์จไว 80W
ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าวบนเว็บไซต์ Weibo ในประเทศจีน ระบุว่าvivo Y77 5Gจะติดตั้งพาเนล AMOLED ความกว้าง 6.67 นิ้ว FHD+ รันบนระบบปฏิบัติการ Android 12 ตั้งแต่โรงงาน ขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปแบบ octa-core รุ่นใดรุ่นหนึ่งที่ให้ขุมพลังสูงสุด 2.2GHz (สวนทางกับข่าวลือก่อนหน้านี้ที่บอกว่ามันจะมาพร้อมชิป Dimensity 8100 ขนาด 5 นาโนเมตร ความเร็ว 2.85GHz) เสริมด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาดสูงสุด 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุสูงสุด 512GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,380mAh รองรับระบบชาร์จไว 80W ที่ว่ากันว่าสามารถชาร์จแบตจาก 0 – 100% ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งจะทำให้มันเป็นมือถือจากตระกูล Y Series รุ่นแรกที่รองรับการชาร์จด้วยกำลังไฟขนาดนี้
นอกจากนี้vivo Y77 5Gยังติดตั้งกล้องหลังขนาดใหญ่แบบเลนส์คู่ ขนาด 50MP+2MP ติดตั้งอยู่บนโมดูลทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าบริเวณมุมซ้ายบน และมีกล้องหน้าขนาด 8MP ที่ใช้ดีไซน์ทรงหยดน้ำตรงกลางด้านบนจอภาพ ส่วนขนาดของตัวเครื่องคาดว่าจะหนาราว 8.59 มิลลิเมตร และหนักราว 190 กรัมเท่านั้น ทั้งนี้ คาดกันว่าvivo Y77 5Gจะมีกำหนดอวดโฉมต่อสายตาชาวโลกอย่างเป็นทางการในจีนแผ่นดินใหญ่ช่วงเดือนกรกฎาคม ที่จะถึงนี้ โดยมีให้เลือกอย่างแค่สีดำและสีขาว นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าอาจจะมีรุ่นอัพเกรดvivo Y77 Pro(ที่ตอนนี้ยังไม่มีสเปคหลุด) เปิดตัวออกมาคู่กันด้วย แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข่าวหลุดจากแหล่งข่าวในจีนเท่านั้น ส่วนเรื่องจริงจะเป็นยังไงนั้นคงต้องติดตามการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกทีหนึ่ง
Infinix Note 12 VIP มือถือรุ่นหมัดเด็ดของค่ายInfinixที่มาพร้อมสเปกเกรดพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นพาเนล AMOLED คมชัดระดับ FHD+ รีเฟรชเรทลื่น ๆ 120Hz ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ MediaTek Helio G96 ขนาด 12 นาโนเมตร ความเร็ว 2.05GHz เสริมด้วยเทคโนโลยี HyperEngine 2.0 สำหรับช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ CPU และ GPU ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุดถึง 108MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,500mAh รองรับระบบชาร์จไวถึง 120W ที่ถือว่าเร็วเบอร์ต้น ๆ ของวงการตอนนี้เลย
Infinix ถือเป็นแบรนด์มือถือที่กำลังมาแรงสุด ๆ ในตลาดระดับเริ่มต้นและระดับกลาง ล่าสุดยังเปิดตัวInfinix Note 12 VIPที่มาพร้อมสเปกเกรดพรีเมียม ไล่ตั้งแต่จอ AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว FHD+ รีเฟรชเรทลื่น ๆ 120Hz ครอบคลุมขอบเขตสี 100% ของ DCI-P3 รันบนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบด้วยอินเทอร์เฟส XOS 10.6 ใช้ชิป MediaTek Helio G96 ที่เป็นเทคโนโลยีขนาด 12 นาโนเมตร ให้ขุมพลังสูงสุด 2.05GHz เสริมด้วยฟีเจอร์ HyperEngine 2.0
สำหรับช่วยให้ CPU และ GPU ทำงานได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB ที่มีฟังก์ชั่น Extended RAM เพิ่มพื้นที่ได้อีก 5GB ช่วยให้การทำงานลื่นไหลไม่ติดขัด และมี ROM ความจุ 256GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,500mAh รองรับระบบชาร์จไว 120W ที่ทาง Infinix เคลมว่าสามารถชาร์จแบตเต็ม 100% ภายในเวลาเพียง 17 นาทีเท่านั้น ถือว่าเร็วเบอร์ต้น ๆ ของวงการตอนนี้เลยทีเดียว
ในส่วนของการถ่ายภาพมันก็มาพร้อมกล้องหลังแบบ 3 เลนส์ ความละเอียด 108MP+13MP+2MP พร้อม Laser Focus ส่วนกล้องหน้ามีขนาด 16MP ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูตรงกลางด้านบนหน้าจอ นอกจากนี้ภายในตัวเครื่องยังติดตั้งระบบระบายความร้อนแบบแผ่นกราฟีน 9 ชั้น ช่วยกระจายความร้อนได้ดีขึ้น พร้อมลำโพงคู่สเตอริโอ ระบบเสียง DTS สำหรับInfinix Note 12 VIPมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ราว 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 10,xxx บาท ส่วนจะมีการนำเข้ามาวางขายในประเทศไทยด้วยหรือไม่ หรือจะมีการนำเข้ามาเมื่อไหร่นั้น คงต้องติดตามข่าวจากทาง Infinix อีกทีหนึ่ง
vivo T2 มือถือสเปกระดับน้อง ๆ เรือธงที่มาพร้อมจุดเด่นดีไซน์ตัวเครื่องแบบฝาหลังโค้ง และมีโมดูลกล้องที่นูนจากฝาหลังเล็กน้อย ส่วนเสปกอื่น ๆ คาดว่าจะใช้พาเนล AMOLED คมชัดระดับ FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz ขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปตัวรองท็อปอย่าง Snapdragon 870 5G ขนาด 7 นาโนเมตร ให้ขุมพลังถึง 3.2GHz และมีกล้องหลัง 3 ตัว ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ความละเอียดสูงสุด 64MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,700mAh รองรับระบบชาร์จไวระดับ 80W ที่สามารถชาร์จแบตจาก 0 – 100% ได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการส่ง vivo T1 ออกมาตีตลาดทั่วโลก ล่าสุดทาง vivo ก็ได้ส่งภาคต่ออย่าง vivo T2 ออกสู่ตลาดบ้าง โดยมันมาพร้อมจุดเด่นดีไซน์ตัวเครื่องแบบฝาหลังโค้ง ติดตั้งพาเนลแบบ AMOLED ความกว้าง 6.62 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลที่ 398ppi และรองรับ HDR10+ รันบนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบด้วยอินเทอร์เฟส Origin OS Ocean ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 870 5G ขนาด 7 นาโนเมตร ให้ขุมพลังสูงสุดถึง 3.2GHz เสริมด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุ 256GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,700mAh รองรับระบบชาร์จไวระดับ 80W ที่ว่ากันว่าสามารถชาร์จแบตจาก 0 – 100% ได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
ในส่วนของการถ่ายภาพมันมาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 64MP+8MP+2MP พ่วงระบบกันสั่น OIS รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ส่วนกล้องหน้ามีขนาด 16MP ใช้ดีไซน์เจาะรูด้านบนหน้าจอ นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อครบครัน ไล่ตั้งแต่ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, USB Type-C 2.0, NFC รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G ผ่าน Nano-SIM สำหรับ vivo T2มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ วันที่ 23 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีส้ม, สีฟ้า และสีไล่เฉด ส่วนจะมีการส่งออกไปทำตลาดยังต่างประเทศด้วยหรือไม่ หรือมีการจะส่งออกช่วงไหนนั้น คงต้องติดตามข่าวจากทาง vivo อีกทีหนึ่ง
ซึ่ง Xiaomi ได้มีการเปิดตัวมือถือตัวใหม่สำหรับชาวเกมเมอร์ ที่จะทำให้การเล่นเกมนั้นลื่นไหลไม่มีสะดุดด้วย “โหมดShark space” สามารถกำหนดและตั้งค่าเกมต่างๆให้แยกกันได้ เช่น ตั้งค่าอัตราการตอบสนองการสัมผัส ความเสถียรและความแม่นยำรวมถึงความละเอียดของจอภาพ ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ซึ่งได้ให้ลำโพงคู่ที่ดังและมีมิติเสียงสเตอร์ริโอพร้อมแม่เหล็กถึง 7ตัวด้วยกัน ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องภายนอกจะมีความพิเศษที่ใส่ปุ่ม L-R เราสามารถกดได้จริงไม่ใช่ระบบสัมผัส
ซึ่งเป็นที่น่าสนใจเหมาะกับสายเกมเมอร์อย่างเรา ๆ เป็นอย่างมาก เช่นเกมPub-G และFree Fire โดยที่ปุ่มนี้จะซ่อนตัวอยู่ในขอบของตัวเครื่อง และถ้าจะใช่งานก็เลื่อนปุ่มขึ้นมาใช่ได้แบบเท่ๆ และไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุณหภูมิของCPU และการใช้พลังงานแบตเตอร์รี่ในการเล่นเกมหรือถ้าอยากเต็มที่ไปกับการเล่นเกม
ก็สามารถเปิดโหมดการใช้งานระดับสูงสุดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยที่ตัวเครื่องออกแบบการระบายความร้อนนั้น เขาให้มาเป็นแบบ Sandwich liquid cooling system พร้อมกับครอบคลุมระบบภายในที่เกี่ยวกับความร้อน แล้วยังสามารถลดอุณหภูมิลงได้ถึง 18องศา ด้วย
ซึ่งคุณสมบัติของตัวเครื่อง Black Shark 4 Pro โดยตัวเครื่องหน้าจอเป็น Super amoled 16ล้านสี กว้างขนาด6.67” มีกล้องหลังใส่มาให้ถึง 3ตัว กล้องหลักความละเอียดอยู่ที่ 64M, เลนกว้าง 8M, เลนมาโคร 5M สามารถถ่าย VDO 4K ได้และความละเอียดกล้องหน้า 20M
มีระบบปฏิบัติการของ Black Shark 4 Pro จะให้มาเป็นCPU Snapdragon 888 GPU adrenoTM660 มีหน่วยความจำให้เลือกอยู่ที่ RAM 8GB / ROM 128GBกับ RAM128GB / ROM256GB ความเร็วของระบบจะอยู่ที่ 2.84GHz
ส่วนตัวเครื่องใส่ได้ 2ซิมการ์ด รองรับเครือข่าย 5G และออกแบบเสาอากาศที่ใช่รับส่งสัญญาณไว้ถึง 5เสา กับเสาWI-FIอีก 2เสารอบตัวเครื่อง เพื่อป้องกันการดีเลย์ของสัญญาณขณะเล่นเกม ส่วนความจุแบตเตอร์รี่จะอยู่ที่ 4500mAh ชาร์จไว 120W สามารถชาร์จแบตเตอร์รี่เต็มได้ภายใน 15นาที ไฮโลไทย ถึงแม้มือถือเครื่องนี้จะเป็นมือถือเล่นเกมแต่น้ำหนักตัวเครื่องไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไปเลย และมีน้ำหนักเพียง 220กรัม ด้วยคุณสมบัติและการออกแบบโดยรวมก็ได้เปิดตัวมาที่ราคาเพียง 2หมื่นกว่าบาทเท่านั้นเอง
หากท่านต้องการสมาร์ทโฟนที่ราคาอยู่ในระดับกลางพร้อมฟังก์ชั่นที่ครบเครื่องสมาร์ทโฟนรุ่น Note 11 Pro 5G จะตอบสนองความต้องการของท่านได้ไม่ยากเลยด้วยเทคโนโลยีจากปี 2022 ที่ผลิตมาจากทางค่าย Redmi ที่ในพักนี้ก็ได้รับความนิยมจากบรรดาผู้ใช้งานหลายท่านอยู่ไม่น้อยเลยด้วยฟังก์ชั่นที่สนองได้ทุกการใช้งานพร้อมราคาที่สุดจะเป็นมิตร ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ อันดับแรกไปกันที่หน้าจอของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ที่จะแสดงผลมาเป็น Super AMOLED 24-bit ที่ให้งานภาพที่งดงามด้วยเทคโนโลยี HDR 10 ขนาด 6.67 นิ้ว
ที่จะมีความกว้างอยู่พอสมควรส่งผลให้การรับชมซีรีย์หรือเล่นเกมเก็บครบได้ทุกรายละเอียด อีกทั้งยังรองรับการสัมผัสที่รวดเร็วถึง Refresh Rate 120Hz มากันที่กล้องหน้าของจอที่ดีไซน์ให้เป็น Punch-Hole Display ความละเอียด 16MP ส่วนด้านหลังจะจัดมาให้ถึง 3 เลนซ์ ได้แก่ 108MP Main , 8MP Ultrawide และ 2MP Macro ที่ติดตั้งมาพร้อมกับฟีเจอร์เสริมให้ภาพถ่ายดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น
แกนหลักที่จะมาเพิ่มความสนใจในตัวสมาร์ทโฟนรุ่นNote 11 Pro 5Gได้มากกว่าที่เคยเห็นทีจะเป็นเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ทางค่ายบรรจุเข้ามาให้ อันดับแรกไปกันที่ CPU ที่จัดมาให้เป็น Snapdragon 695 5G Octa Core ที่ให้ความแรงอยู่ในระดับที่กำลังพอดีอยู่ที่ 2.2 GHz ซึ่งจะอยู่ในระดับที่กำลังพอดีให้การใช้งานของท่านคลอบคลุมทุกรูปแบบ ต่อกันที่เทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลเป็น GPU รุ่น Adreno 619 ให้งานภาพที่ถ่ายทอดมาให้ท่านได้รับชมกราฟฟิกที่สวยงามได้แบบดีเยี่ยม
ทางด้านของความแรงที่ตัวเครื่องจัดมาให้จะอยู่ที่ RAM 8GB อาจจะไม่ได้แรงมากนักแต่ก็พอที่จะเล่นเกมในระดับที่ปานกลางได้พร้อมการตั้งค่าที่อยู่ในระดับต่ำจะทำให้ตัวเกมเล่นได้ไหลลื่นกว่าเดิม ความจำของเครื่องจะจัดมาให้อยู่ที่ ROM 128GB อาจจะดูน้อยไปเล็กน้อยแต่ตัวเครื่องก็จะรองรับ microSD สูงสุด 1 TB ให้การจัดเก็บข้อมูลสบายใจได้หายห่วง แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้จะจัดมาให้หนักมากถึง 5,000 mAh ที่สามารถจะอยู่กับท่านได้ตลอดทั้งวัน รวมถึงยังมี Fast Charging 67W ช่วยให้การรอคอยเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป
ราคาของสมาร์ทโฟนNote 11 Pro 5Gนับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ในการใช้งานที่คุ้มค่าพร้อมรวบรวมฟีเจอร์ที่จัดเต็มแบบฉบับของแบรนด์ Redmi โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะตอบโจทย์ในเรื่องของการถ่ายภาพที่คมชัดเก็บได้ทุกรายละเอียด slot777 รวมถึงยังให้ความสามารถที่พอประมาณให้การใช้งานของท่านควบคู่กับไลฟ์สไตล์ของท่านได้ไม่ยากเลยด้วยราคา 10,990 บาท
สำหรับท่านทีกำลังค้นหาสมาร์ทโฟนที่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนเซลฟี่ครบทุกฟีเจอร์ที่ต้องการด้วย V23 5G คงตอบโจทย์ให้ท่านได้ไม่ยากเลยอีกทั้งพึ่งจะได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่มาในปี 2022 จากแบรนด์ Vivo ที่จะมาพร้อมตัวเครื่องที่ถูกดีไซน์ให้จับพอดีมือใช้งานได้ง่ายพร้อมถ่ายทอดความสวยงาม ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ผ่านหน้าจอ AMOLED 24-bit ที่แสดงผลเชดสีได้มากถึง 16 ล้านสี
เก็บครบทุกรายละเอียดของกราฟฟิกด้วย HDR 10+ โดยขนาดของหน้าจอจะอยู่ในลักษณะที่กำลังพอดีอยู่ที่ 6.44 นิ้ว รองรับการสัมผัสได้สูงสุดถึง Refresh Rate 90Hz มากันที่กล้องหน้าจะมาในแนวของ Notch Display แบบ DUO กล้องหลักจะมีความคมชัดอยู่ที่ 50MP และ เลนซ์ Ultrawide 8MP กลับด้านมาจะพบกับกล้องหลัง ได้แก่ Main 64MP , 8MP Ultrawide และ 2MP Macro ที่จะมาพร้อมฟีเจอร์ในการถ่ายรูปครบทุกไลฟ์สไตล์ของท่านแน่นอน
แรงขับเคลื่อนหลักทีจะขาดไปไม่ได้เลยของ V23 5Gที่ท่านไม่ควรจะมองข้ามไปเลยก็ตงจะเป็นขุมพลังต่าง ๆ ที่เป็นหัวใจสำคัญของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ เริ่มกันที่อันดับแรกก็คือ Dimensity 920 5GOcta Core ที่ให้กำเนิดความแรงถึง 2.5 GHz เลยทีเดียวของ CPU รุ่นใหม่ล่าสุด ตามมาด้วยการรองรับระบบปฏิบัติงาน Funtouch OS 12 based on Android 12 ที่กำลังจะปล่อยอีกไม่นานนี้เอง การแสดงผลที่เป็นแรงถ่ายทอดของหน้าจอจะใช้เป็น GPU Mali-G68 MC4 ที่แสงสีที่มีความคมชัด
ให้ผู้ใช้งานได้พบกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่บนสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ เดินทางมาถึงความแรงของสมาร์ทโฟนกันบ้างที่จะกำหนดมาให้เป็น RAM 12GB รวมถึงสามารถที่จะจัดเก็บข้อมูลสำคัญของผู้ใช้งานได้มาเป็น ROM 256GB ที่ใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมดเสียที สุดท้ายก็จะเป็นแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนที่อยู่ในระดับกลางประมาณ 4,200 mAh และยังรองรับในช่วงเวลาที่เร่งรีบด้วย Fast Charging ที่ให้ความเร็วได้สูงถึง 44W เหมาะสมกับการใช้งานในยุคปัจจุบันไม่เบาเลย
ความน่าสนใจและราคาของสมาร์ทโฟน
V23 5Gเป็นสมาร์ทโฟนที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 2022 ที่มีความน่าจับตามองไม่เบาเลยด้วยความสวยงามจากภายนอกที่ทางค่าย Vivo ได้ตั้งใจดีไซน์ให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันมากขึ้น อีกทั้งยังขับเคลื่อนมาด้วยความแรงที่เหมาะสมในทุกการใช้งานไม่ว่าจะเล่นเกมที่ต้องประมวลผลหนัก หรือ ต้องใช้ในการทำงานหลากหลายรูปแบบ ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลไปเนื่องจากเทคโนโลยีที่จัดเต็มเข้ามาจะเป็นผู้ช่วยให้ท่านเอง สรุปราคาของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้จะอยู่ที่ 17,999 บาท
OnePlus 10R มือถือระดับเรือธงรุ่นใหม่ที่ว่ากันว่าเป็นการพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์มือถือสเปคระดับไฮเอนด์ แต่ราคาเป็นมิตร เพื่อมาต่อกรกับมือถือเรือธงของค่ายอื่น ๆ ในตลาด ล่าสุด ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ได้มีข้อมูลสเปคบางส่วนของมือถือรุ่นนี้หลุดออกมาบ้างแล้ว โดยเบื้องต้นคาดกันว่า มันจะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED รองรับรีเฟรชเรท 120Hz พร้อมขุมพลังชิปเซ็ตระดับไฮเอนด์อย่าง Dimensity 9000 ของ MediaTek ที่ว่ากันว่าประสิทธิภาพพอฟัดพอเหวี่ยงกับ Snapdragon 8 Gen 1 ของฝั่ง Qualcomm เลยทีเดียว
หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงอย่างOnePlus 10 Pro ไปเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอยู่แล้ว เพราะดันเปิดตัวรุ่น Pro ที่เป็นรุ่นอัพเกรดก่อนรุ่นธรรมดาอย่างOnePlus 10 ที่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีกำหนดเปิดตัวแน่นอน ล่าสุด ยังมีข่าวว่า OnePlusเตรียมเปิดตัวOnePlus 10R ซึ่งเป็นรุ่นน้องเล็กในซีรีส์ที่ว่ากันว่าถูกพัฒนามาเพื่อเป็น “Flagship Killer” ที่มาพร้อมสเปคระดับเทพ แต่ราคาเป็นมิตร เพื่อต่อกรกับเรือธงของค่ายอื่น แถมยังมีข้อมูลเรื่องสเปคบางส่วนของมือถือรุ่นนี้รั่วไหลออกมาบ้างแล้วด้วย
เบื้องต้นคาดว่า มันจะมาพร้อมหน้าจอ AMOLED รองรับรีเฟรชเรทไม่ต่ำกว่า 120Hz (หรืออาจจะไปถึง 144Hz) ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผลตัวท็อปของค่าย MediaTek อย่าง Dimensity 9000 ที่ใช้เทคโนโลยีขนาด 4 นาโนเมตร (เป็นชิป 4 นาโนเมตรรุ่นแรกของโลก!) ความเร็ว 3.05GHz ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM ขั้นต่ำ 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุขั้นต่ำ 128GB (อาจมาพร้อมเทคโนโลยี RAM เสมือน) น่าเสียดายที่ยังไม่มีข้อมูลเรื่องกล้อง รวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ
ทั้งนี้ คาดกันว่า OnePlus 10Rจะเน้นการทำตลาดฝั่งเอเชียเป็นหลัก และน่าจะเปิดตัวในประเทศจีนและอินเดีย ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ส่วนเรื่องราคาคงต้องติดตามกันต่อไป แต่ในเมื่อทางOnePlus ประกาศว่ามันจะเป็น Flagship Killer ที่มีสเปคแรงในราคาไม่แพง ก็น่าจะทำราคาได้ถูกกว่าเรือธงของค่ายอื่นพอสมควร
สำหรับสมาร์ทโฟนอย่าง Samsung Galaxy M22 บอกเลยว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับความอึดของแบตเตอรี่ที่สามารถเก็บไฟได้มากถึง 5000mAh ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ โดยเน้นผู้ใช้ที่ต้องใช้งานผ่านมือถือ และชื่นชอบการเล่นสื่อโซเชียลต่าง ๆ บนสมาร์ทโฟน นอกจากแบตจะอึดเล่นได้นานแล้ว ยังสามารถใช้ระยะเวลาในการชาร์ทไฟรวดเร็วอีกด้วยรูปแบบการชาร์ทไฟเร็วแบบ 25 วัตต์ ใช้เวลาชั่วโมงนิด ๆ แบตก็จะกลับมาเต็มใช้งานได้ต่อสบาย ๆ
การออกแบบตัวเครื่องได้มีการใช้วัสดุพิเศษทำให้ตัวเครื่องสกปรกจากคราบรอยนิ้วมือได้ยาก จับง่ายพอดีมือ ขนาดของหน้าจอมีความใหญ่ถึง 6.4 นิ้ว ความละเอียดของภาพเป็นแบบ HD + Super AMOLED ส่งผลในเรื่องของการถนอมสายตา หากใครที่ชื่นชอบการเล่นเกม ตัวเครื่องได้มีการใส่โหมด Game Booster เข้ามาเพื่อทำการวิเคราะห์ว่าควรจะประหยัดแบตอย่างไรให้สอดคล้องกับเกมที่เราเล่น ส่วนเรื่องของการใช้งานจะเปิดเป็น 10 – 15 แอพพลิเคชั่นพร้อมกัน ก็หายห่วงไม่มีการสะดุดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับส่วนประกอบของตัวเครื่องนั้นทำมากจากพลาสติกอย่างหนา ตัวกรอบด้านหลังของเครื่องจะเป็นทำให้ผิวด้าน เพื่อที่ทำให้ผู้ใช้จับได้กระฉับ กั้นลื่น และเน้นการทำความสะอาดให้ได้ง่าย รุ่นนี้จะมีให้เราได้เลือกซื้ออยู่ 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน, สีดำ และสีขาว น้ำหนักเบาเพียง 186 กรัม ความยาว กว้าง หนาของตัวเครื่องอยู่ที่ 159.9 x 74 x 8.4 มม.
รายละเอียดของกล้องหน้า และกล้องหลังของสมาร์ทโฟน
สำหรับกล้องหน้าจะมีเลนส์สำหรับใช้ในการถ่ายรูปเซลฟี่ มีความคมชัด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงที่ขนาด f/2.2 ด้านบนของกล้องจะเป็นลำโพง ส่วนกล้องด้านหลังจะมีด้วยกันทั้งหมด 4 เลนส์ กล้องตัวหลักจะเก็บภาพที่ความคมชัด 48 ล้านพิเซล
รายละเอียดของปุ่มต่าง ๆ ของตัวเครื่อง การใส่ซิมจะใช้ซิมแบบ Triple-SIM Slot สามารถใส่ซิฟการ์ดที่ใช้ในการเก็บข้อมูลได้สูงสุดอยู่ที่ 1 TB จะอยู่ทางขอบด้านซ้ายของตัวเครื่อง ส่วนทางขอบด้านขวาของตัวเครื่องจะเป็นปุ่มเปิดปิด ปุ่มเพิ่มเสียง และเรายังสามารถกดถ่ายรูปถ่ายอีกด้วย โดยที่เราให้กดปุ่ม Power ติดกันอย่างน้อย 2 ครั้ง ช่องเสียบหุฟัง และลำโพงจะอยู่ทางด้านล่าง ระบบเสียงเป็นแบบ Dolby ATMOS เสียงดังนุ่มลึก ส่วนราคาของเครื่องอยู่ที่ 6,999 บาท ภาพรวมโดยทั่วไปเป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นการใช้งานแบบทั่วไป จุดเด่นก็คงจะเป็นเรื่องของตัวกล้อง ก็ถือว่าคุ้มค่าราคากับสเปกที่ให้มาก็ไม่ได้น่าเกลียด
ZTE Axon 30 กับชิปตัวแรง Snapdragon 870G ถือเป็นสมาร์ทโฟนแห่งอนาคตก็ได้ สำหรับทาง ZTE หลังจากที่พวกเขามีการใช้งานกล้องใต้หน้าจอ ซึ่งจะถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยมากในยุคนี้เลยทีเดียว
รวมถึงยังจะเป็นโทรศัพท์ตัวแรกที่สามารถแสดงความละเอียดของหน้าจอได้ถึง 400 PPI (Pixel Per Inch) อีกทั้งการใช้ชิพตัวแรกจาก Qualcomm อย่าง Snapdragon 870G ก็น่าจะมาทำงานร่วมกับอุปกรณ์ที่ใช้ฟีเจอร์ตัวแรงได้เป็นอย่างดีและเพิ่งจะเปิดตัวในประเทศจีนไปในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้
ข้อมูลรายระเอียดต่างๆที่เรา ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ได้มานั้น ด้วยความที่ ZTE Axon 30 ใช้ชิพดิสเพลย์แยกจากซีพียูโดยตรงเพื่อทำให้การใช้งานหน้าจอสามารถแสดงผลลัพธ์ที่แม่นยำมากกว่าเดิม รวมถึงยังเชื่อมต่อการทำงานกับกล้องหน้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยภายใต้หน้าจอจะแบ่งไปด้วยแผงทั้งเจ็ดชั้นที่เป็นวัสดุโปร่งแสงและทางบริษัท ZTE ได้ใช้เทคโนโลยีพิเศษทั้งสามตัวเพื่อทำให้การใช้กล้องหน้ามีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
รวมถึงยังไม่ถูกแสงสะท้อนจนทำให้กล้องมัวเหมือนกันที่เคยเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ชองบริษัทอื่นมาแล้ว ส่วนหน้าจอของพวกเขาจะมีขนาด 6.9 นิ้วที่ใช้แผง AMOLED ในการแสดงผล รวมถึงนังมีอัตรารีเฟรชที่ 120 เฮิร์ตซ์และยังถนอมสายตาอีกด้วย
ภายในตัวเครื่องของ ZTE Axon 30 ก็จะใช้ชิพตัวแรงอย่าง Snapdragon 870G ที่ออกแบบมาให้มีหน่วยประมวลผลถึง 8 แกนสมองและสามารถรองรับความถี่ได้ถึง 3.2 GHz อีกทั้งทางบริษัทยังได้ทำการออกแบบแรมเป็นของตัวเองไว้ที่ 5GB เพื่อรองรับพื้นที่ในตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่เช่นกัน
ส่วนเซนเซอร์กล้องของพวกเขาก็จะใช้งาน Sony IMX682 จากค่ายดังที่จับความละเอียดได้ที่ 64MP ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์เลนส์ไวลด์ที่ 8MP และเลนส์มาโครกับแนวลึกอีกอย่างละ 5MP ที่น่าจะจุใจสำหรับคนชอบการถ่ายรูป
อย่างไรก็ตาม ZTE Axon 30 ถือเป็นอุปกรณ์ที่เน้นการใช้งานหน้าจออย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่พวกเขาไม่ได้เว้นช่องไว้สำหรับการใช้กล้องเซลฟี่และเลือกที่จะพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองเพื่อที่จะใช้งานกล้องใต้จอแทน โดยสมาร์ทโฟนแห่งยุคสมัยใหม่ก็เปิดตัวไว้ด้วยราคาเพียง 340 ดอลลาร์หรือ 11,175 บาทเท่านั้น ซึ่งพวกเขาจะใช้งานโทรศัพท์ที่ใช้งาน Snapdragon 870 เลยทีเดียว