Exercise equipment เทคโนโลยี การออกกำลังกาย สมัยใหม่

การออกกำลังด้วย Exercise equipment การออกกำลังเป็นสิ่งสำคัญต่อมนุษย์เลยก็ว่าได้เพราะช่วยการสร้างร่างกายให้แข็งแรงและยังส่งผลให้ร่างกาย Strong และเสริมภูมิคุ้มกันได้ดีเราจะเห็นคนนิยมหาซื้อเครื่อออกกำลังกาย Exercise equipment ไว้ที่ติดบ้านกันส่วนใหญ่เพราะเดี๋ยวนี้การออกแบบเครื่องออกกำลังกายทันสมัยมากเป็นเทคโนโลยีที่เราควรมีติดบ้านไว้สักเครื่องไม่ต้องไปถึงยิมเราก็มีหุ่นและสุขภาพที่ดีในบ้านด้วยนั่นเองเครื่องเล่นออกกำลังมีหลายแบบให้เราเลือกซื้อได้ตามต้องการและความเหมาะสมในการใช้งานความถนัดของเราด้วย

การออกกำลังกายเทคโนโลยีสมัยใหม่ Exercise equipment

1.Exercise equipment  เครื่องออกกำลังกายแบบลูกกลิ้ง

ลูกกลิ้งเหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่ออกกำลังกายน้อยเช่นคอนโด หรือไว้สำหรับห้องเล็กๆ เครื่องเล่นใช้เพื่อบริหารหน้าท้องเสริมสร้างกร้ามเนื้อที่หน้าท้องทำให้กระชับและมีรูปร่างที่สวยงามดู Strong ราคาก็เพียงเริ่มต้นแค่ 499 บาทขึ้นไป ข้อดีคือพกพาง่ายเหมาะที่จะเอาติดรถไปออกกำลังที่ต่างจังหวัดได้เลย

Exercise equipment

2.Exercise equipment  Hsociety  ประโยชน์ใช้สำหรับ เครื่องบริหารหน้าท้อง ข้อดีคือไม่ใช่แค่ใช้ในหน้าหน้า ยังสามสารถออกกำลังส่วนแขนและขาได้ ได้  Strong  ข้อดีคือปรับเอนได้ ถึง 180 องศาและยังรับนำหนักได้ถึง 100 โลราคาเริ่มต้นเพียง 890 ขึ้นไปเหมาะเอาไปใช้ไว้ในบ้าน แต่ไม่สามารถยกไปไหนได้เพราะค่อนข้างใหญ่พอตัว

Exercise equipment-เครื่องบริหารหน้าท้อง

3.Exercise equipment  KUMALL Situp เป็น อุปกรณล็อคเท้าซิทอัพ ใช้เท้าเป็นหลักในการออกกำลังกาย มีเหล็กที่ยึดกับพื้นอย่างแน่นหนา สามารถวิดพื้นได้ซิกอัพ ก็เป็นท่าง่ายๆที่จะ Strong  อีกทางที่ต้องไปหาซื้อติดบ้านกันไว้ อุปกรณ์ชนิดนี้สามาเครื่องย้ายได้เพราะมีขนาดค่อนข้างเล็กพกพาสะดวกราคาอยู่ที่ 299บาท ขึ้นไป

Exercise equipment-ล็อคเท้า

4.Exercise equipment  B&G Yoga Ball เป็นการออกกำลังที่ใช้ลูกบอลในการทรงตัวและการฝึกสมาธิได้ดี เป็นการฝึกแบบโยคะ ฝึกกกล้ามเนื้อ เราสามารถออกแบบท่าออกกำลังกายได้เองเลย ถ้าเราคิดท่าไม่ออกหาดูช่องยูทูปในการออกกำลังกายได้เลยค่ะ ราคาเริ่มต้นที่ 149 บาท ทำร่างกายให้ Strong ก็เลือกซื้อเครื่องออกกำลังกายต้องเลือกจากสิ่งที่ตัวเองถนัดก่อน ค่อยๆ ฝึกไปที่ละเครื่องเล่นค่อยๆ ปรับร่างกายให้เข้าที่ ค่อยมองหาเครื่องเล่นอันอื่น

Exercise equipment-บอล

สำหรับผู้ที่ต้องการติดตาม ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของเราwww.lookpictures.net

Continue Reading

ZTE Axon 30 สมาร์ทโฟน พร้อมกับกล้องใต้จอใช้ชิพตัวแรง Snapdragon 870G

ZTE Axon 30-ด้านหน้าและหลัง

ZTE Axon 30 กับชิปตัวแรง Snapdragon 870G ถือเป็นสมาร์ทโฟนแห่งอนาคตก็ได้ สำหรับทาง ZTE หลังจากที่พวกเขามีการใช้งานกล้องใต้หน้าจอ ซึ่งจะถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยมากในยุคนี้เลยทีเดียว

รวมถึงยังจะเป็นโทรศัพท์ตัวแรกที่สามารถแสดงความละเอียดของหน้าจอได้ถึง 400 PPI (Pixel Per Inch) อีกทั้งการใช้ชิพตัวแรกจาก Qualcomm อย่าง Snapdragon 870G ก็น่าจะมาทำงานร่วมกับอุปกรณ์ที่ใช้ฟีเจอร์ตัวแรงได้เป็นอย่างดีและเพิ่งจะเปิดตัวในประเทศจีนไปในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้

ZTE Axon 30-ด้านหลัง

ZTE Axon 30 สมาร์ทโฟนพร้อมกับกล้องใต้จอ

ข้อมูลรายระเอียดต่างๆที่เรา ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ได้มานั้น ด้วยความที่ ZTE Axon 30 ใช้ชิพดิสเพลย์แยกจากซีพียูโดยตรงเพื่อทำให้การใช้งานหน้าจอสามารถแสดงผลลัพธ์ที่แม่นยำมากกว่าเดิม รวมถึงยังเชื่อมต่อการทำงานกับกล้องหน้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยภายใต้หน้าจอจะแบ่งไปด้วยแผงทั้งเจ็ดชั้นที่เป็นวัสดุโปร่งแสงและทางบริษัท ZTE ได้ใช้เทคโนโลยีพิเศษทั้งสามตัวเพื่อทำให้การใช้กล้องหน้ามีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

รวมถึงยังไม่ถูกแสงสะท้อนจนทำให้กล้องมัวเหมือนกันที่เคยเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ชองบริษัทอื่นมาแล้ว ส่วนหน้าจอของพวกเขาจะมีขนาด 6.9 นิ้วที่ใช้แผง AMOLED ในการแสดงผล รวมถึงนังมีอัตรารีเฟรชที่ 120 เฮิร์ตซ์และยังถนอมสายตาอีกด้วย

ZTE Axon 30

ภายในตัวเครื่องของ ZTE Axon 30 ก็จะใช้ชิพตัวแรงอย่าง Snapdragon 870G ที่ออกแบบมาให้มีหน่วยประมวลผลถึง 8 แกนสมองและสามารถรองรับความถี่ได้ถึง 3.2 GHz อีกทั้งทางบริษัทยังได้ทำการออกแบบแรมเป็นของตัวเองไว้ที่ 5GB เพื่อรองรับพื้นที่ในตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่เช่นกัน

ส่วนเซนเซอร์กล้องของพวกเขาก็จะใช้งาน Sony IMX682 จากค่ายดังที่จับความละเอียดได้ที่ 64MP ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์เลนส์ไวลด์ที่ 8MP และเลนส์มาโครกับแนวลึกอีกอย่างละ 5MP ที่น่าจะจุใจสำหรับคนชอบการถ่ายรูป

ZTE Axon 30-สี่สี

อย่างไรก็ตาม ZTE Axon 30 ถือเป็นอุปกรณ์ที่เน้นการใช้งานหน้าจออย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่พวกเขาไม่ได้เว้นช่องไว้สำหรับการใช้กล้องเซลฟี่และเลือกที่จะพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองเพื่อที่จะใช้งานกล้องใต้จอแทน โดยสมาร์ทโฟนแห่งยุคสมัยใหม่ก็เปิดตัวไว้ด้วยราคาเพียง 340 ดอลลาร์หรือ 11,175 บาทเท่านั้น ซึ่งพวกเขาจะใช้งานโทรศัพท์ที่ใช้งาน Snapdragon 870 เลยทีเดียว 

Continue Reading

Tab S8 แท็บเล็ตตัวใหม่จากค่าย Samsung เล็งใช้ ชิปตัวแรง Snapdragon 895

Tab S8

Samsung อาจเอาใจแฟนที่รอ Galaxy Tab S8 กันแล้ว โดยอาจนำชิพตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Snapdragon 895 มาใส่ในแท็บเลตตัวนี้เลยทีเดียว โดยทาง Ice Universe ได้ออกมาปล่อยข่าวลือนี้ผ่านทางทวิตเตอร์ของตัวเองที่ทางยักษ์ใหญ่จากประเทศเกาหลีใต้ได้ตั้งชื่อโมเดลไว้ว่า SM-X806x ที่จะใช้ชิพรหัส SM8450 และตรงกับชิพตัวใหม่ที่ทาง Qualcomm เตรียมจะเปิดตัวในอนาคตอีกด้วย รวมถึงน่าจะเพิ่มประสิทธิภาพจากแท็บเลตรุ่นก่อนอย่างมาก หลังจากที่ในปี 2020 พวกเขาใช้ชิพ Snapdragon 865+ เท่านั้น

Tab S8-เปิดตัว

Samsung เล็งใช้ Snapdragon 895 ให้แก่ Tab S8 ของพวกเขา

สิ่งที่น่าสนใจที่ทางเว้บไซต์ ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ของเราได้มานั้น แท็บเลตตัวใหม่จาก Samsung ตัวนี้พวกเขาจะใช้แอนดรอยด์ 12 ที่เป็นพื้นฐานในการออกแบบ One UI 4.0 และมาพร้อมกับแบตเตอร์ขนาดใหญ่ถึง  10,090mAh ที่น่าใช้งานได้นานกว่าที่เคย

รวมถึงรองรับการชาร์จไวที่ 45 วัตต์ด้วยกัน ส่วนทางด้านรายละเอียดสเป็คอย่างอื่นที่เคยมีการเปิดเผยออกมาก็มีทั้งหน้าจอขนาด 12.4 นิ้วพร้อมกับแผง OLED ที่มีอัตรารีเฟรชหน้าจอได้ถึง 120 เฮิร์ตซ์  ก่อนที่พวกเขาจะเปิดตัวออกมาในช่วงต้นปี 2022 สำหรับแท็บเลตรุ่นสูงของพวกเขา

Tab S8-ภาพสวยสมจริง

นอกจากหน้าจอแล้ว Samsung ยังน่าจะทำTab S8 ออกมาเป็นสองรุ่นก็คือตัวธรรมดาและตัว S8+ ที่จะมีสเป็คตามที่กล่าวมาและใช้กล้องหลักสองตัวขนาด 13 MP และ 5MP ที่ทำหน้าที่แตกต่างกันไป ส่วนทางด้านกล้องหน้าก็จะใช้เซนเซอร์ 8MP พร้อมกับรองรับการสแกนนิ้วมือบนหน้าจอ

ทว่าสำหรับตัวธรรมดาก็ตะมีขนาดเล็กลงที่ 11 นิ้วพร้อมแผง LCD และมีการสแกนลายนิ้วมือที่ขอบจอ ส่วนชิพยังน่าจะใช้ Snapdragon 895 เหมือนกัน อีกทั้งทางบริษัทยังมีแผนจะปล่อยตัวอัลตร้าที่ใหญ่ที่สุดของรุ่น 8 อีกด้วยและน่าจะทรงพลังกว่าทุกตัวที่กล่าวมา

Tab S8-น่าใช้

ถือว่า Samsung น่าจะเอาจริงกับแท็บเลตตัวใหม่ของพวกเขาอย่างมาก หลังจากที่มีแผนเปิดตัวออกมาถึงสามรุ่นไม่ว่าจะเป็นTab S8, S8+ และ S8 Ultra  โดยรุ่นใหญ่ที่สุดจะมีหน้าจอขนาด 14.6 นิ้ว และมีแรม 12 GB เพื่อทำงานร่วมกับความจุที่ 512GB เช่นเดียวกับแผนที่จะปล่อยอุปกรณ์เสริมอย่างคีย์บอร์ดออกมาในอนาคตเช่นกัน

Continue Reading

Nokia แบรน์ดมือถือชื่อดังทำแท็บเลตราคาประหยัดออกมาสู่ตลาดยุคไอที

Nokia-แท็บเล็ต

ย้อนกลับไปในอดีตนั้น ทาง Nokia เคยพยายามเข้ามาตีตลาดแท็บเลตมาแล้วในช่วงปี 2013 ที่พวกเขาเคยทำตัวของ Lumia 2520  ที่ใช้ระบบปฏิบัติการณ์ของ Window เข้ามา เช่นเดียวกับรุ่น N1 ซึ่งทั้งสองต่างไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด ก่อนที่จะไม่มีการผลิตสินค้ารุ่นต่อมาจากบริษัท

หลังจากที่พวกเขาได้รับรู้แล้วว่า แผนการตลาดนี้ไม่ได้ผล รวมถึงทาง HMD Global ก็น่าจะต้องการให้ทางแบรนด์เน้นการทำสมาร์ทโฟนมากกว่า จนกระทั่งได้เห็นโทรศัพท์มากมายหลายรูปแบบภายใต้แบรนด์ที่อยู่กับวงการมาเป็นเวลานาน

Nokia

Nokia เตรียมทำแท็บเลตราคาประหยัดออกมาสู่ตลาดแล้ว

แม้ว่า Nokia จะเคยล้มเหลวมาแล้วนั้น แต่จากการจดสิทธิบัตรของพวกเขาก็น่าจะทำให้คนที่สนใจ ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ในวงการอาจได้เห็นแท็บเลตภายใต้การบริหารของ HMD เป็นครั้งแรก รวมถึงจะใช้ระบบแอนดรอยด์แทนจะเป็น Window อีกด้วย ซึ่งขนาดของอุปกรณ์อาจอยู่ที่ 10.36 นิ้วเลยทีเดียว แม้ว่าจะยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมออกมาก็ตาม รวมถึงราคาอาจอยู่เพียงแค่ 185 ปอนด์หรือ 8,500 บาทเท่านั้น เช่นเดียวกับอาจเป็นอุปกรณ์สเป้คกลางราคาถูกที่อาจเข้ามาตีตลาดราคากลางได้เป็นอย่างดี

Nokia-ตัวอย่าง

แน่นอนว่า Nokia คงจะไม่ผลิตอุปกรณ์มาแข่งกับ iPad Pro อย่างแน่นอน แต่อย่างน้อยก็อาจใกล้เคียงกับตัวของ Amazon Fire HD 10 ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในฝั่งตะวันตกนั่นเอง ส่วนชื่อที่หลายคนคาดเอาไว้ก็น่าจะเป็น T20 ตามที่แบรนด์มักจะตั้งชื่อ C20 , G20 หรือ XR20 ไว้ก่อนหน้านี้

Nokia-สเป็ค

โดยสเป็คหลักก็อาจจะใช้แรมที่ 4GB กับหน่วยความจำที่ 64GB ด้วยกัน ซึ่งจะดีกว่า Fire HD ที่ให้แรมมาเพียง 3GB กับความจำที่ 32GB เท่านั้น รวมถึงทางบริษัทอาจปล่อยรุ่นที่สามารถใช้ซิม 4G เข้ามาดว้ยเพื่อให้สะดวกต่อการพกพามากขึ้นนั่นเอง

การลงตลาดของ Nokia กับ HMD Global ก็จะไม่ได้มีเพียงแค่การทำแท็บเลตราคาถูกเท่านั้น แต่พวกเขายังมักจะใส่ฟีเจอร์บางอย่างหรือสเป็คที่แรงกว่าคู่แข่งเล็กน้อยในราคาที่ถูกลงไปกว่าเดิม จนทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จขึ้นมาในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งราคาที่ไม่เกิน 200 ปอนด์หรือ 9,000 บาทก็คงจะทำให้มีคนหันไปลองใช้อุปกรณ์ในราคาประหยัดของพวกเขามากกว่าจะทุ่มซื้อผลิตภัณฑ์ราคาสูงในตลาด

Continue Reading

ระบบยืนยันตัวตน ใน iOS15ของค่ายดัง Apple อาจใช้รูปแบบการเซลฟี่ด้วยใบหน้า

ระบบยืนยันตัวตน-แบบใหม่

ทาง Apple คงจะชื่นชอบการใช้งานสแกนใบหน้าไม่น้อย เมื่อใน iOS15 จะทำการนำเอาระบบ Face ID มาใช้ใน ระบบยืนยันตัวตน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นอย่าง Wallet มากขึ้นนั่นเอง แม้ว่าฟีเจอร์ที่ทางบริษัทจะเพิ่มเข้ามายังไม่มีการเปิดใช้งานในเวอร์ชั่นเบต้าก็ตาม แต่หนึ่งในนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของแบรนด์ก็เริ่มออกมาเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่น่าจะใช้ให้สมาร์ทโฟนไม่เสี่ยงต่อการถูกแอบเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงระบบสแกนหน้ายังจะเป็นหนึ่งในฟีเจอร์หลักของอุปกรณ์ทุกตัวในอนาคตแล้ว

ระบบยืนยันตัวตน-ios15

Apple อาจใช้การเซลฟี่เพื่อ ระบบยืนยันตัวตน ใน iOS15

การเขียนโปรแกรมในระบบ iOS15 ก็มีฟีเจอร์ใหม่ที่ถูกซ่อนไว้ในตัวเบต้าจนยังไม่มีใครได้สัมผัส แต่ก็มีข้อมูลที่เรา ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ได้รับการเปิดเผยว่า ฟีเจอร์เพื่อรักษาความปลอดภัยในระบบตัวใหม่นี้จะถูกเพิ่มเข้ามาอย่างแน่นอน โดยการตั้งค่าบัตรประชาชนใน iPhone เพื่อในแอพพลิเคชั่นอย่าง Wallet นั้นก็จะบังคับให้มีการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน รวมถึงป้องกันไม่ให้มีการปลอมแปลงบุคคลผ่านอุปกรณ์จาก Apple อีกด้วย ซึ่งวิธีการยืนยันตัวง่าย ๆ  เลยก็ถือการถ่ายรูปเซลฟี่ของตัวเองเข้ากับระบบนั่นเอง

ระบบยืนยันตัวตน-การเปิดใช้งาน

แม้ว่าการสแกนใบหน้าจะเป็นเรื่องใหม่ใน iOS15 ก็ตาม แต่แอพพลิเคชั่นของธนาคารบางตัวก็เริ่มบังคับให้ผู้ใช้ต้องยืนยันตัวตนผ่าน Face ID  มาแล้ว ก่อนที่ทาง Apple จะเห็นแนวทางรักษาความปลอดภัยของตัวเองจนนำเอาฟีเจอร์สำคัญนี้เข้ามา ซึ่งวิธีการสแกนก็จะต้องหันกล้องไปมาเพื่อจับลักษณะของใบหน้า ทั้งการหันข้าง ยักคิ้ว ยิ้มหรืออ้าปาก หลังจากที่ผู้ใช้ได้นำเอาข้อมุลบัตรประชาชนเข้าไปไว้ในระบบแล้วก็ทำการยืนยันใบหน้าอีกครั้งหนึ่งก็จะสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกขโมยตัวตนไปได้อีกด้วย

ระบบยืนยันตัวตน-บนมือถือ

นับว่า Apple ก็มองความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นหลักอยู่เสมอ หลังจากที่ iOS15 และอุปกรณ์ตัวใหม่ในอนาคตก็จะใช้ Face ID เพื่อยืนยันตัวตนอยู่เสมอ ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งระบบรักษาความปลอดภัยพอ ๆ กับการสแกนลายนิ้วมือที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ แต่อาจเพิ่มการสแกนหน้าเข้าไปเพื่อตอบรับกับกระแสของการโจรกรรมข้อมูลจากอิเลกทรอนิกส์ที่มากขึ้น จนหลายคนเริ่มไม่มั่นใจในระบบเก่าแล้วเช่นกัน

Continue Reading

Huawei แบรนด์มือถือสมาร์ทโฟนที่กำลังยอดตกไม่ติดห้าอันดับแรกในประเทศจีน

Huawei

เป็นข่าวที่น่าตกใจไม่น้อยเลย เมื่อทาง Huawei กลับไม่ได้รับความนิยมในประเทศจีนอีกต่อไปแล้ว จนทำให้พวกเขาไม่ติดอันดับสมาร์ทโฟนขายดีห้าอันดับแรกของประเทศนั่นเอง หลังจากที่พวกเขาได้รับผลกระทบไปอย่างหนักเพราะไม่สามารถผลิตของได้เหมือนอย่างปกติ ก่อนที่การรายงานของ International Data Corporation (IDC) ที่ช่วงไตรมาสสองของประเทศจีนจะมียอดจำหน่ายโทรศัพท์เพียง 78 ล้านเครื่อง ซึ่งน้อยกว่าปีก่อนถึง 11% เลยทีเดียว ส่วนทางด้านอดีตบริษัทลูกอย่าง Honor จะกลับมาติดห้าอันดับแรกแทน

Huawei-ไม่ติดตลาดจีน

Huawei ยอดตกจนไม่ติดห้าอันดับแรกในประเทศจีน

สำหรับข้อมูลที่เรา ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ได้รับมานั้นมีเนื้อหาดังนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Huawei ถือว่า เป็นอดีตแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับหนึ่งของประเทศและยังเคยก้าวไปแข่งขันระดับโลกมาแล้ว ก่อนที่จะกลายเป็นผู้แพ้ในปี 2021 ที่ไม่สามารถติดอันดับแม้แต่ 5 อันดับแรกของการแข่งขันในประเทศเลยก็ตาม

โดยชื่อของพวกเขาไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับโทรศัพท์ยี่ห้อดังอย่าง Samsung และ OnePlus ที่ไม่ได้รับความนิยมในประเทศนี้เช่นเดียวกัน รวมถึงยอดขายของพวกเขาต้องตกลงไป ซึ่งมีทาง Honor ที่แยกตัวออกมาจากพวกเขากลับทำยอดไปได้ถึง 8.9% ในตลาดจนเกาะอันดับห้าไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

Huawei-ยอดตก

นอกเหนือจาก Huawei จะตกอันดับไปอย่างไม่น่าเชื่อ ทาง Apple ที่เป็นหนึ่งในคู่แข่งของพวกเขาก็มียอดขายโตขึ้นมาถึง 17%ในไตรมาสสองที่ผ่านมา หลังจากที่ทาง IDC ได้รายงานว่า พวกเขาสามารถขาย iPhone ไปได้ถึง 8.6 ล้านเครื่อง ภายในเดือนเมษายนถึงมิถุนายน

ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของสมาร์ทโฟนรุ่น 12 ของบริษัท ส่วนทางด้าน Xiaomi ก็กลายเป็นยักษ์ใหญ่หน้าใหม่ของประเทศ หลังจากที่มียอดขายถึง 17.2% ในตลาด เมื่อพวกเขาขายอุปกรณ์ไปได้มากกว่า 13.4 ล้านเครื่องในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา

Huawei-โดนตัดทิ้ง

ทาง Huawei คงจะต้องยอมรับชะตากรรมของตัวเองที่ต่างโดนทั้ง Apple, Xiaomi, Oppo, Vivo และแม้แต่อดีตลูกน้องตัวเองอย่าง Honor ทำยอดขายแซงไป หลังจากที่พวกเขาไม่มีกำลังผลิตชิพที่มากพอจะวางจำหน่ายได้นั่นเอง ซึ่งทางบริษัทก็พยายามหาทางออกอยู่ด้วยการผลิตชิพเองทั้งหมด โดยในอนาคตเมื่อชิพ Kirin ถูกผลิตได้เป็นจำนวนมาก พวกเขาก็น่าจะพร้อมกลับมาทวงบัลลังค์ของตัวเองอีกครั้งในประเทศจีนกับโลกใบนี้ 

Continue Reading

Facebook และ Google ให้พนักงานกลับมาทำงานในออฟฟิศหลังโรคโควิดน้อยลง

Facebook และ Google

สำหรับข่าว Facebook และ Google เตรียมให้พนักงานกลับมาทำงานในออฟฟิส หลังจากเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้วที่มนุษย์ทุกคนนั้นต้องอยู่กับ การแพร่ระบาดของโรคโควิด ซึ่งก็ไม่มีท่าทีที่จะยุติลง ทำให้บริษัทส่วนใหญ่ต้องปิดตัวลงและบริษัทบางส่วนที่ยังคงสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ก็ต้องให้พนักงานทำงานที่บ้านเพื่อให้ไม่เกิดการแพร่ระบาดมากขึ้น ซึ่งการทำงานที่บ้านก็เกิดขึ้นกับทุกบริษัททั่วโลกที่ยังคงดำเนินการต่อไม่เว้นแม้แต่ Facebook และ Google ที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีในประเทศสหรัฐอเมริกา

Facebook และ Google-พนังงาน

ในประเทศสหรัฐอเมริกาตอนนี้ก็เริ่มมีการฉีดวัคซีนให้กับประชากรภายในประเทศแต่ด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิดสายพันธุ์เดลต้า ทำให้บุคลากรในหลาย ๆ บริษัทยังคงที่จะต้องทำงานที่บ้านต่อไป แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในประเทศสหรัฐก็เริ่มที่จะดีขึ้น และทาง Facebook และ Google ที่เป็น 2 บริษัทที่ตั้งอยู่ในซิลิคอนวัลเลย์ก็มีแผนที่จะให้พนักงานนั้นเริ่มกลับเข้ามาทำงานในบริษัทแล้ว

Facebook และ Google เตรียมให้พนักงานกลับมาทำงานในออฟฟิส

จากข่าวสารที่เรา ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ได้รับรายงานมานั้น โดยในอีเมลของ Sundar Pichai ผู้ที่เป็น CEO ของบริษัท Google ที่มีการส่งไปหาพนักงานในบริษัทโดยทางบริษัท Google ก็มีแผนการที่จะสิ้นสุดการ work from home ในช่วงวันที่ 1 กันยายน 2564 นี้ ตัวพนักงานสามารถเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศ Pre – pandemic ได้แล้ว สำหรับพนักงานที่สามารถทำงานที่บ้านก็ให้ทำงานที่บ้านต่อไปได้ โดยทางบริษัทในตอนนี้ก็กำลังรอที่จะนำพนักงานส่วนใหญ่กลับมาทำงานในบริษัทจนถึงวันที่ 18 ตุลาคม โดยพนักงานทุกคนที่จะกลับมาทำงานทำงานในออฟฟิศจำเป็นที่จะต้องมีการฉีดวัคซีนด้วย

Facebook และ Google

เช่นเกี่ยวกับ Vice President ของ Facebook ในฝ่ายบุคคล อย่าง Lori Goler ก็จะให้พนักงานกลับมาทำงานในออฟฟิศในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เช่นเดียวกันแต่พนักงานทุกคนที่จะเข้ามาทำงานในออฟฟิศนั้น จำเป็นที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วทางบริษัทเองก็มีกระบวนการที่จะดำเนินการกับพนักงานที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือว่ามีเหตุผลอื่น ๆ ด้วย

Facebook และ Google

ต้องยอมรับว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิดนั้นมีผลกระทบต่อธุรกิจมากมายเลยทีเดียวและบางครั้งการทำงานที่บ้านก็ไม่ได้ช่วยให้ธุรกิจนั้นสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นในประเทศที่ได้มีการฉีดมอร์ฟีนแล้วจึงเริ่มให้พนักงานกลับมาทำงานในออฟฟิศเพื่อให้การทำงานและมีประสิทธิภาพสูงสุด

Continue Reading

Modern Fans พัดลมไฮเทคล้ำสมัยเย็นแบบ Soft and comfortable จากอเมริกา

Modern Fans

พัดลม Modern Fans  เป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีอีกอย่างที่ ทุกบ้านต้องมีเพราะให้ความเย็นและประหยัดไฟกว่าการใช้แอร์ พัดลมช่วยระบายความร้อนให้เราได้รับรู้ถึงความเย็น Soft and comfortable ผู้ผลิต เป็นชาวอเมริกัน ชื่อ ชอยเลอร์ วีลเลอร์ ก่อนจะผลิตเขาทำงานที่ไฟฟ้าและได้ผลิตมอเตอร์ไฟฟ้ามาก่อนจึงเอาไปประยุกต์เป็นพัดลมนั่นเอง สมัยนี้มีการออกแบบพัดลม Modern Fans มีหลายอย่าง พัดลมหลายขนาดและมีระบบไฟฟ้าก็มีสะดวกสบายไปหมด ราคานั้นก็อยู่ที่ความต้องการของคนใช้ถ้าใช้ที่บ้านหรือห้องนอนก็หาใช้ไซส์กลางก็กำลังดี แต่บางที่ทำงานในโรงงานซึ่งมีความร้อนสูงก็จะมีพัดลมอย่างอุตสาหกรรมที่ตัวใหญ่ลมแรงๆ มาใช้กันนั่นเอง

พัดลมไฮเทคล้ำสมัย 2021 Modern Fans

ส่วนประกอบของพัดลม  แบ่งออกเป็น 6 อย่างที่เรา lookpictures เว็บไซต์ ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีได้นำมาเสนอได้แก่

  1. ตัวเครื่องพัดลม 
  2. มอเตอร์พัดลมไฟฟ้า  
  3. ตัวใช้งานสั่งหยุด สั่งเปิด หรือกลไกล
  4. ใบพัดที่ทำให้มีลมออกมาจากพัดลม 
  5. ตะแกรงคลุมใบพัดป้องกันการเกิดอันตรา
  6. ปลั๊กไฟฟ้าจากพัดลมเพราะต้องใช้ไฟฟ้าจากในบ้าน

1.Modern Fans พัดลมแบบตั้งโต๊ะเป็นพัดลมที่ใช้งานไม่เยอะนิยมใช้ไว้บนโต๊ะทำงาน หรือใช้ในไม่กี่ทียกไปตามที่ต่างๆ ง่ายไปต่างจังหวัดก็พกติดรถไปได้ด้วยสบายๆ ราคาก็ไม่แพง  และ Soft and comfortable  

Modern Fans-ตั้งโต๊ะ

2.Modern Fans พัดลมแบบตั้งพื้น พัดลมอันนี้เป็นที่นิยมใช้กันเป็นอย่างมากเพราะเป็นสิ่งจำเป็นและยังเป็นพัดลมที่มีขนาดพอดีต่อความต้องการและการนิยมใช้ภายในบ้านราคาจะสูงขึ้นมากพัดลมตั้งโต๊ะ เพราะการใช้งานได้เยอะกว่า เสริมด้วย Soft and comfortable  

Modern Fans-ตั้งพื้น

3.Modern Fans พัดลมแบบติดพนัง พัดลมอันนี้ข้อดีคือพ้นมือเด็กเล็กๆ ที่เอื้อมไปจับหรือเผลอไปแหย่ไม่ได้ความเย็นก็จะอยู่เหนือศีรษะขึ้นมาบางจุดอาจจะได้ความเย็นไม่เท่าพัดลมตั้งพื้นแต่ข้อดีต่างกันไปไปราคาเท่าๆ กันกับพัดลมตั้งพื้น

Modern Fans-ติดผนัง
6

การเลือกซื้อพัดลมนั้นให้หาตามความเหมาะสมกับการใช้งานต่อบุคคลหรือสถานที่อยู่ ราคามีให้เลือกตามกำลังและยี่ห้อแต่ละยี่ห้อนั้นต่างกัน มีทั้งจุดเด่นและจุดด้อยของยี่ห้อต้องไปหาและศึกษาให้ดีก่อน เน้น Soft and comfortable  เป็นหลัก

Continue Reading