Search results
47 results found.
47 results found.
ชิปประมวลผล M1 จาก Apple บริษัทที่เป็นที่รู้จักในปัจจุบันนี้ ในเรื่องการผลิตโทรศัพท์สมาร์ทโฟนอย่าง iPhone iPad iPod และคอมพิวเตอร์อย่าง Macbook ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์ของ Apple นั้นถือว่าเป็นที่นิยมในสังคมโลกเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามสำหรับเครื่อง Macbook แล้ว Apple ในอดีตได้ใช้ชิปประมวลผลของ Intel แต่ล่าสุดใน MacBook รุ่นใหม่ทาง Apple ก็ได้เปิดตัวชิปใหม่ที่เป็นชิปประมวลผลของบริษัท Apple นั่นก็คือชิปประมวลผล M1 ในรูปแบบของ ARM ที่มีประสิทธิภาพเท่ากับเครื่อง PC เลยทีเดียว นี่จะทำให้ผู้คนหันมาใช้ Macbook เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
ชิปประมวลผลนี้ได้บรรจุอยู่ใน Macbook รุ่นใหม่ซึ่งเป็นชิปประมวลผลสถาปัตยกรรมแบบ ARM นับเป็น SoC ที่รวมเอาทั้ง CPU, GPU, Neural Engine, I/O และอีกมากมายมาไว้ในชิปเดียว ซึ่งก็มีผลทำให้เครื่อง Macbook รุ่นใหม่ที่กำลังจะออกนี้มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงมากรวมทั้งมีความเร็วในการทำงานที่มากเช่นเดียวกัน ด้วยชิปประมวลผล M1 จะทำให้โปรแกรมต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น Lightroom Logic pro และโปรแกรมอื่นๆที่มีในเครื่อง Macbook ทำงานได้เร็วขึ้นแถมความอึดของแบตก็มีมากขึ้นสามารถใช้ได้นานมากถึง 20 ชั่วโมงต่อการชาร์จ นอกจากการประมวลผลในการทำงานของโปรแกรมที่เร็วแล้วเครื่อง Macbook รุ่นใหม่ที่ใช้ชิปประมวลผล M1 นั้นสามารถเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างมากเรียกได้ว่าตอนนี้ประสิทธิภาพของ Macbook รุ่นใหม่นั้นกำลังจะเทียบเคียงกับเครื่อง PC ที่มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในการตกแต่งเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง ๆ ได้เลยทีเดียว
สำหรับเครื่อง Macbook ที่สามารถใช้ชิปประมวลผล M1 ได้นั้นก็จะมีMacbook air รุ่น 13 นิ้ว, Macbook pro รุ่น 13 นิ้ว และ Macbook Mini สำหรับวันจัดจำหน่ายนั้นยังไม่ได้มีประกาศออกมาจากทางเว็บไซต์หลักของ apple.com
สำหรับใครที่สนใจในเครื่องรุ่นใหม่ของ Apple อย่าง macbook air รุ่น 13 นิ้วและ Macbook pro รุ่น 13 นิ้วก็ต้องรอติดตามข่าวทุกวันจำหน่ายอย่างใกล้ชิดนะครับไม่แน่อาจจะเป็นที่หมายปองของคนหลายคนจนสินค้าหมดก็เป็นได้ในส่วนของราคานั้นสามารถติดตามได้ที่ apple.com ได้เลย ต้องบอกก่อนว่าราคาสูงมาก ๆ สำหรับ Macbook รุ่นใหม่
ติดตามข่าวสารอีกมากมายของเราได้ที่ ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ได้ที่นี่ และ Ubamarket บริษัทค้าปลีก พัฒนาแอพพลิเคชั่น กับการตัดสินใจซื้อของตามร้านค้าต่าง ๆ
vivo X90s สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอัพเกรดจากvivo X90 Proที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของมันจะเหมือนกับ X90 Series แต่สเปคด้านในก็มีการอัพเกรดให้แรงขึ้นด้วยชิปเซ็ต Dimensity 9200+ ที่ให้ขุมพลังแรงระดับ 3.35GHz แสดงผลผ่านจอแบบ AMOLED ความกว้าง 6.78 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz และมีกล้องหลังที่พัฒนาโดย ZEISS จำนวน 3 ตัว ความคมชัดสูงสุด 50MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,810mAh รองรับระบบชาร์จไวถึง 120W ผ่าน USB Type-C 2.0
vivo X90s เรือธงรุ่นอัพเกรดจากตระกูล X90 Series ที่เพิ่งวางขายอย่างเป็นทางการในบ้านเราไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยคราวนี้มันยังคงใช้ดีไซน์แบบเดียวกับ X90 และ X90 Pro มีขนาดและน้ำหนักแทบจะเท่ากัน และตัวเครื่องยังรองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP64 ด้วย ติดตั้งหน้าจอแบบ AMOLED ความกว้าง 6.78 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ ใช้สัดส่วนแบบ 20:9 มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 453ppi รีเฟรชเรท 120Hz รองรับ HDR10+ ปรับความสว่างได้ถึงระดับ 1300 nit และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบด้วยอินเตอร์เฟส OriginOS 3 ใช้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดของ MediaTek อย่าง Dimensity 9200+ ขนาด 4 นาโนเมตร ให้ขุมพลังแรง 3.35GHz ทำงานร่วมกับจีพียู Immortalis-G715 MC11 มีหน่วยความจำ RAM ขนาดสูงสุด 12GB (LPDDR5X) และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในแบบ UFS 4.0 ความจุสูงสุด 512GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4.810mAh รองรับระบบชาร์จไว 120W ข่าวไอดีคอมพิวเตอร์
นอกจากนี้vivo X90sยังมาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวที่พัฒนาโดย ZEISS ความคมชัด 50MP+12MP+12MP พ่วงระบบ Laser AF และ OIS พร้อมชิปประมวลผลภาพถ่าย V2 ที่ทาง vivo พัฒนาขึ้นเอง รองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ส่วนกล้องหน้ามีความคมชัด 32MP ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูตรงกลางด้านบนหน้าจอ รองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ในส่วนของการเชื่อมต่อต่าง ๆ รองรับทั้ง 5G, Wi-Fi7, Bluetooth 5.3, USB Type-C 2.0 และ NFC
สำหรับvivo X90sเริ่มเปิดให้ผู้ที่สนใจสั่งแบบพรีออเดอร์แล้วในประเทศจีน gclub สนนราคารุ่นเริ่มต้นอยู่ที่ 3,999 หยวน หรือประมาณ 19,xxx บาท แต่ยังไม่มีกำหนดการวางขายแบบ gclub ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งต้องรอติดตามข่าวกันอีกทีหนึ่ง
โน๊ตบุ๊คสำหรับนักเรียน ในปัจจุบันถือว่ามาพร้อมกับยี่ห้อที่ให้เราได้เลือกใช้งานมากมายเลยก็ว่าได้ ซึ่งโน๊ตบุ๊คในปัจจุบันได้มีการเพิ่มเติมในส่วนของฟังก์ชันการใช้งานที่มีความทันสมัยที่ทำให้มีความเหมาะสมกับการทำรายงานหรือใช้ในการเรียนมากที่สุดอีกด้วย ดังนั้นในบทความนี้เราจึงจะมาแนะนำว่าคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่มีความเหมาะสมกับการใช้งานทางด้านการเรียนมากที่สุด และรูปทรงที่พกพาได้ง่ายก็มีรายละเอียดดังนี้
โน๊ตบุ๊คสำหรับนักเรียน ถือว่ามีหลากหลายยี่ห้อให้เราได้เลือกใช้เลยทีเดียว และในปัจจุบันยังมีการออกแบบให้มีความบางและเบาสบายที่จะช่วยให้นักเรียนสามารถพกพาไปไหนได้ง่ายดายมากขึ้น อีกทั้งยังมีการเพิ่มเติมระบบการ ประมวลผล ที่ดีที่สุดอีกด้วย ดังนั้นโน๊ตบุ๊คที่น่าใช้ก็มีดังนี้ที่ ข่าวไอดีคอมพิวเตอร์
มีความเหมาะสมกับการใช้ทางด้านการเรียนมากที่สุด เพราะตัวเครื่องมีการออกแบบให้มีความกะทัดรัดเป็นอย่างมาก เพื่อให้สามารถพกพาได้อย่างสะดวกสบายนั้นเอง อีกทั้งยังมีระบบประมวลผลAMD Athlon Silver 3050U ที่นักเรียนสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความเด่นในส่วนของระบบการแสดงผลอีกด้วย
โน๊ตบุ๊คสำหรับนักเรียนที่เปิดตัวได้ไม่นานก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะตัวเครื่องมีการออกแบบด้วยการเน้นความเรียบหรูและดูแพงมากที่สุด และที่สำคัญยังมีหน้าจอขนาดใหญ่ประมาณ 15 นิ้วที่มีความเหมาะสมกับการพิมพ์รายงานมากที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีระบบการประมวลผลที่ดีเยี่ยมอีกด้วย
เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่และมีความละเอียดแบบ Full HD ที่ทำให้สามารถมองภาพได้อย่างชัดเจนมากที่สุด และที่สำคัญยังมีรูปทรงภายนอกที่หรูหราที่น่าใช้งานมากที่สุดเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีระบบการประมวลที่รวดเร็วที่ทำให้สามารถทำรายงานหรือเอกสารต่าง ๆ ได้รวดเร็วแบบที่ต้องการอีกด้วย
เป็นโน๊ตบุ๊คดีไซน์สวยงามและน่าใช้งานเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ และมีการออกแบบตัวเครื่องให้มีขนาดที่เบาจึงมีความเหมาะสมกับการพกพาไปโรงเรียนได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้สามารถทำรายงานหรือทำการบ้านได้อย่างราบรื่นอีกด้วย
โน๊ตบุ๊คสำหรับนักเรียนที่ ufabet ได้แนะนำไปข้างต้นถือว่ามาพร้อมกับความทันสมัยเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ด้วยการออกแบบในเรื่องของตัวเครื่องและประสิทธิภาพในการใช้งานให้ดีที่สุดที่มีความเหมาะสมกับการใช้งานทางด้านการเรียนอีกด้วย
iQOO Z6 มือถือในกลุ่มมิดเรนจ์ของค่าย vivo ที่มีภาพเรนเดอร์หลุดออกมาในโซเชียลต่างประเทศก่อนหน้านี้ โดยเบื้องต้นคาดว่ามันจะมาพร้อมพาเนลแบบ OLED ความกว้าง 6.64 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ใช้ขุมพลังตัวแรงในกลุ่มมิดเรนจ์อย่าง Snapdragon 778G ที่ให้ความเร็ว ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ สูงสุดถึง 2.5GHz และมีกล้องหลัง 3 ตัว ความคมชัดสูงสุด 64MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,500mAh รองรับระบบชาร์จไว 80W ที่ใช้เวลาเพียง 10 นาที ก็สามารถชาร์จแบตได้ครึ่งหนึ่งแล้ว
iQOO Z6มือถือในกลุ่มมิดเรนจ์ที่เป็นรุ่นรองลงมาจากตระกูลเรือธงอย่าง iQOO 10 โดยคาดกันว่ามันจะมาพร้อมพาเนลแบบ OLED ความกว้าง 6.64 นิ้ว FHD+ มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลสูงถึง 396ppi รีเฟรชเรท 120Hz และรองรับการแสดงผล HDR10+ ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ทับด้วยอินเตอร์เฟส Origin OS Ocean ใช้ขุมพลังตัวแรงในกลุ่มมิดเรนจ์อย่าง Snapdragon 778G ขนาด 6 นาโนเมตร ให้ความแรงสูงสุด 2.5GHz ทำงานร่วมกับจีพียู Adreno 642L เสริมด้วยหน่วยความจำขนาดสูงสุด 12GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในสูงสุด 256GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,500mAh รองรับระบบชาร์จไว 80W ที่ทางผู้ผลิตเคลมว่าสามารถชาร์จแบตจาก 0 – 50% ภายในเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น
iQOO Z6ยังติดตั้งกล้องหลังแบบ 3 เลนส์ คมชัด 64MP+2MP+2MP รองรับการบันทึกวิดีโอคมชัดระดับ 4K ที่ 30fps พร้อมกล้องหน้าขนาด 8MP ที่ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูตรงกลางด้านบนจอภาพ ในส่วนการเชื่อมต่อต่าง ๆ ก็รองรับทั้ง USB Type-C 2.0, Bluetooth 5.2, Wi-Fi6 แต่จะไม่มีช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรติดมาให้ สำหรับ iQOO Z6มีกำหนดเผยโฉมครั้งแรกที่จีนแผ่นดินใหญ่ในวันที่ 25 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมีราคารุ่นเริ่มต้นอยู่ที่ 2,299 หยวน หรือประมาณ 12,xxx บาท (ไม่รวมภาษี) ซึ่งถือเป็นราคาที่น่าสนใจมากเมื่อเทียบกับสเปคทั้งหมดที่กล่าวว่า ส่วนจะมีการนำเข้ามาวางขายในบ้านเราด้วยหรือไม่นั้น คงต้องติดตามข่าวจากทาง vivo กันอีกทีหนึ่ง
นับตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน เทคโนโลยีมือถือ ได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของผู้ใช้งานเป็นหลัก โดยมีจุดประสงค์ที่สนองความอยากของมนุษย์ และในการแก้ปัญหา รวมถึงได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของโทรศัพท์มือถือและการออกแบบรูปลักษณ์ให้เหมาะสมสำหรับเทคโนโลยีในยุคอนาคต ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ โดยจะเห็นได้จากเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคนเรา และได้เปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตของคนเราไปอย่างสิ้นเชิง
โดยในอนาคตอันใกล้เราอาจจะได้เห็นสมาร์ทโฟนในรูปแบบที่ต่างออกไปจากเดิม ยกตัวอย่างเช่น รูปแบบของหน้าจอ ที่สามารถยืดหรือหดได้ตามความต้องการของผู้ใช้และหน้าจอในอนาคตจะสามารถโค้งและบิดงอได้ เพื่อสามารถใช้งานได้หลากหลายขึ้นและโอกาสที่จะแตกหักเสียหายนั้นก็จะยากขึ้นไปด้วย รวมถึงขนาดหน้าจออาจจะมีความแตกต่างออกไป และความละเอียดของหน้าจอก็อาจจะมีความคมชัดสูงขึ้นกว่าในยุคนี้อีกหลายเท่าตัว
และการพัฒนา เทคโนโลยีมือถือ ในอนาคตนั้น อาจจะไม่เน้นที่ชิปประมวลผลมีความแรงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะให้ความสนใจเรื่องการประหยัดพลังงานมากขึ้น ผู้ใช้งานสามารถใช้งานโทรศัพท์มือถือได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิม โดยความเร็วในการใช้งานนั้นยังคงเหมือนเดิมเพราะในอนาคตการผลิตชิปประมวลผลที่มีความเร็วสูงอย่างเดียวนั้นอาจจะไม่ตอบโจทย์ทั้งหมดสำหรับผู้บริโภค รวมไปถึงขนาดของแบตเตอรี่ที่จะมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าเดิมอีกแล้ว แต่จะมีการพัฒนาให้มีรูปลักษณ์ในแบบอื่นแทนและขนาดของแบตเตอรี่จะเล็กลงแต่ความจุนั้นยังเท่าเดิม และในส่วนของการชาร์จก็จะมีความรวดเร็วกว่าเดิมอีกหลายสิบเท่า
ผู้ใช้งานจะเสียเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่แค่แป๊บเดียวแต่จะสามารถใช้งานโทรศัพท์ได้อย่างยาวนานขึ้น และในส่วนของกล้องถ่ายภาพ อาจจะไม่ได้เห็นกล้องที่มีหลายตัวอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีอาจจะเปลี่ยนเป็นกล้องอันเดียว แต่สามารถทำงานได้หลากหลายกว่ากล้องที่มีหลายตัว ก็เป็นได้ในปัจจุบันนี้เราอาจจะได้เห็นโทรศัพท์มือถือที่ทำออกมาในรูปแบบของจอที่สามารถพับงอได้ ด้วย เทคโนโลยีของมือถือ
ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องและในอนาคตเราอาจจะเห็นโทรศัพท์มือถือ ออกมาเป็นในรูปแบบต่าง ๆ ที่ไม่ใช่เพียงแค่พับได้อย่างในตอนนี้ แต่อาจจะเห็น รูปแบบที่ยืดหดหรือขยายสัดส่วนหน้าจอ หรือการแสดงผลจะมาในรูปแบบของ 3D เพราะอาจเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีของมือถือว่าถูกพัฒนาให้ล้ำสมัยขึ้นกว่าที่ผ่านมาแค่ไหน ซึ่งเราจะคงได้เห็นวิวัฒนาการของมือถือ ยุคต่อไปเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน
บริษัทยักษ์ใหญ่ Amazon เปิดตัวนวัตกรรมที่ถูกเรียกว่าหุ่นยนต์ โดยเจ้าโรบ็อทตัวนี้ ถูกออกมาแบบมาเพื่อทดแทนแรงงานของมนุษย์ ในอุตสาหกรรมสโตร์หรือคลังสินค้าขนาดใหญ่ ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ขณะเดียวกันชื่อของมันคือ โพรธีอัส (Proteus) นวัตกรรมสุดไอเทคหุ่นยนต์รุ่นแรกแรกของบริษัทอีคอมเมิร์ทชระดับโลกเตรียมวางขายผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของตัวเองเร็ว ๆ นี้
โพรธีอัส (Proteus) หุ่นยนต์ทดแทนแรงงานของรุ่นแรกของ บริษัทยักษ์ใหญ่แอมะซอน เปิดตัวโรบ็อทขนาดกะทัดรัดความสูงเพียงไม่กี่นิ้ว หากจะให้บรรยายง่าย ๆ ว่าเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้มีหน้าตาเหมือนเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติตามครัวเรือนที่มีขายตามห้างสรรพสินค้า และแพลตฟอร์มออนไลน์ทั่วไป แต่คุณสมบัติของมันนับว่าเหลือร้ายไม่เบา
เจ้าหุ่นยนต์รุ่นแรงของ Amazon จะถูกกระจายออกไปยังสโตร์ของทางบริษัททั่วทุกภูมิที่ตั้งอยู่บนโลก สำหรับจุดประสงค์และคุณสมบัติของมันจะเน้นในเรื่อง ความปลอดภัยผ่านเทคโนโลยี รวมถึงระบบอัจฉริยะชั้นสูงสามารถอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์และอุตสาหกรรมหนัก เจ้าหุ่นยนต์รูปร่างเครื่องดูดฝุ่นตัวนี้ คอนเซปท์ของมันคือความปลอดภัยเป็นหลีก
ก่อนจะมาเป็นโพรธีอัส
ย้อนกลับไป 10 ปีก่อน Amazon บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน เปิดตัวหุ่นยนต์ คีว่า (Kiva) หุ่นยนต์รุ่นเก่าที่ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยผ่านการควบคุมผ่านปากกาอัจฉริยะ แต่สำหรับเจ้าโรบ็อตปี 2021 ที่กำลังวางจำหน่ายจะควบคุมผ่านชิพเทคโนลยี มันสามารถประมวลผลลัพธ์เองได้ทั้งหมดโดยเฉพาะความปลอดภัยในอุตสาหกรรมหนัก ขณะที่มนุษย์ไม่จำเป็นต้องควบคุบมันอีกต่อไป
“ในอดีตที่ผ่านมา หุ่นยนต์กับความปลอดภัยยังเป็นเรื่องห่างไกลนัก แต่ปัจจุบันโพรธีอัสถูกออกแบบมาเพื่อมนุษย์มันทั้งฉลาด ปลอดภัย และยังสามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างไม่มีปัญหา” ตัวแทนบริษัทกล่าว ปัจจุบันบริษัทยักษ์ใหญ่ค้าปลีกอเมริกันกำลังเร่งผลิตหุ่นยนต์รุ่นดังกล่าวถึง 200,000 ตัว เพื่อให้ทันความต้องการ
ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทใหญ่อย่าง Amazon เพราะเจ้าโพรธีอัส ถูกสร้างเพื่อความปลอดภัยของเหล่าพนักงานในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้จะทำหน้าที่เสมือนรถโฟล์คลิฟท์ และจากงานวิจัยค้นพบว่ามันสามารถช่วยรถอุบัติเหตุในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ อาทิ สโตร์คลังสินค้า ขณะเดียวกันรอยเตอร์ยังรายงานปี 2019 ว่า มีแนวโน้มที่มนุษย์จะตกงาน
เทสล่า มอเตอร์ บริษัทผู้ผลิตและส่งออกพลังงานไฟฟ้าและรถยนต์พลังงานสะอาด เปิดตัวหุ่นยนต์เทสล่าฮิวแมนนอยด์ นวัตกรรมชิ้นเอกที่ถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวก ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ให้กับมนุษย์ ขณะที่ อีลอน มัสก์ ซีอีโอคนดังเตรียมเปิดตัวโรบ็อตรุ่นใหม่ของบริษัท และเตรียมวางจำหน่ายในอเมริกาภายในไตรมาสนี้ ภายในงานเปิดตัวมัสก์กล่าวคีย์สั้น ๆ ว่า “มันจะกลายเป็นเพื่อนของคุณ”
อีลอน มัสก์ ซีอีโอบริษัทพลังงานไฟฟ้าและนวัตกรรมของสหรัฐฯ เปิดตัว หุ่นยนต์แอนดอร์ย ในงาน AI DAY เป็นครั้งที่ 2 ของบริษัท จุดประสงค์หลักมีเพื่อนำเสนอโปรดักชั่นใหม่ ๆ สุดไฮเทคแห่งอนาคตของทางบริษัทมากมาย โดยมีซีอีโอคนดังเป็นพิธีกรหลักของงาน วันที่ 19 สิงหาคม 2022
ภายในงานAI DAY ครั้งที่ 2 กลางฤดูร้อนดังกล่าว บริษัท เทสล่า มอเตอร์จะมีการเปิดตัว หุ่นยนต์แอนด์ดอร์ยรุ่นใหม่ของทางบริษัท โดยข่าวดังกล่าวได้รับการยืนยันโดยซีอีโอของพวกเขาผ่านพอดคาสต์ ขณะเดียวกัน เล็ก ฟรีดแมน วิศวกรฝ่ายระบบของบริษัทกล่าวว่าสักวันหนึ่ง Teala Robot ของเราจะก้าวขึ้นมามีบทบาทต่อมนุษย์สมุนมิตรสหายและเพื่อนร่วมงานอย่างแน่นอน “มันจะไม่ใช่ AI ธรรมดาเพราะมันสามารถประมวลผลปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพให้เข้ากับเจ้าของของมันได้ ดังนั้นหุ่นยนต์รุ่นนี้จะมีนิสัยต่างกัน” ฟรีดแมนกล่าว
บทสัมภาษณ์อีลอน มัสก์
งานกาตาร์ อีโคโนมิค (Qatar Economic Forum) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซีอีโอเทสล่าเปิดเผยว่า เขาเตรียมเปิดตัว Tesla Bot ตัวใหม่ภายใต้ชื่อ ออฟติมัส หุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่เตรียมเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์มากยิ่งขึ้น “เราสามารถผลิตออฟติมัธตัวต้นแบบได้สำเร็จ ผมรอคอยเปิดตัวเจ้าหุ่นต้นแบบตัวนี้ในวัน AI DAY 2” มัสก์กล่าว อย่างไรก็ตามงานเอไอ 2 ถูกเลื่อนออกไปวันที่ 30 กันยายน อ้างอิงโดยทวีตเตอร์มัสก์
งานประจำปีบริษัทในเดือนกันยายน อีลอน มัสก์ ซีอีโอบริษัท เตรียมเปิดตัวแอนดรอย์รุ่นล่าสุดของบริษัท นอกจากนี้เขายังเน้นย้ำว่า Tesla ไม่ได้เป็นแค่บริษัทผลิตรถพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น เขากล่าว “งาน AI เดือนกันยายน เราจะสะท้อนให้ทุกคนบนโลกเห็นว่า บริษัทของเราไม่ได้มีแค่รถยนต์เท่านั้น ในความเห็นของผมเทสล่าคือ บริษัทชั้นนำด้าน AI แห่งอนาคตอย่างแท้จริง” ซีอีโอชาวอเมริกันกล่าว
Tablet HUAWEI รุ่น MatePad 10.4 (2022) นี้คือที่สุดของแท็บเล็ต ที่ทางค่าย Huawei บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน ได้ปล่อยตัวสินค้าออกมาได้ไม่นาน มันเป็นแท็บเล็ตที่เหมาะกับผู้ใช้ ที่ชื่นชอบการทำงานแบบ Ecosystem ตัวแท็บเล็ตรุ่นนี้ มันสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ มาพร้อมกับระบบซปเซตประมวลผลที่เร็ว
และแรงอย่างมาก HarmonyOS 2.0 ผสมกับ Super Device ที่ช่วยให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ทำงานพร้อมกันได้อย่างสมูท ไม่มีสะดุดติดขัดแต่อย่างใด ไม่ว่าจะต่อเข้ากับคีย์บอร์ด เมาส์ไร้สาย รวมถึงยังสามารถใช้ปากกาขีดเขียนบนหน้าจอได้โดยตรง แต่ใช้ได้เฉพาะปากกาของ Huawei เท่านั้น ที่เกริ่นมาเป็นแค่น้ำจิ้ม ยังอลังการขนาดนี้ เราไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม ของแท็บเล็ตตัวนี้กัน แล้วคุณจะเข้าใจ ว่าทำไม Huawei จึงรู้สึกภูมิใจกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาก ๆ
เรามาดูรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ ของ Tablet รุ่นนี้กัน ขนาดของตัวเครื่องเป็นแนวนอน มีขนาดประมาณ 15.4 x 24.5 เซนติเมตร น้ำหนักเบามากพกพาได้สะดวก หน้าจอมีขนาดใหญ่ประมาณ 10.4 นิ้ว มีการแสดงสีความคมชัดได้มากถึง 17 ล้านพิกเซล เราสามารถปรับความสว่างเพิ่มได้อีกนิดหน่อย หากใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูป Tablet รุ่นนี้ก็มาพร้อมกับกล้องหน้า และกล้องหลัง สำหรับกล้องหน้าจะสามารถถ่ายภาพได้ 8 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลังจะถ่ายภาพได้ที่ 13 ล้านพิกเซล
ปุ่มเปิดปิด และเพิ่มลดเสียง ทางHuawei ได้ติดตั้งเอาไว้ที่ขอบด้านขวาบนของตัวเครื่อง และยังมีรูไว้เสียบหูฟัง เพื่อใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ทำงานไปด้วย ฟังเพลงไปด้วย แต่ถ้าไม่เสียบหูฟัง ก็ไม่มีปัญหาในเรื่องของเสียง หลายคนอาจจะกังวลว่า ระบบเสียงจะดังชัดเจนหรือไม่ เพราะ Tablet รุ่นนี้ ได้ติดตั้งลำโพงมาถึง 4 ตัว เรียกได้เลยว่าเป็นโฮมเธียเตอร์ขนาดเล็ก ๆ ก็ว่าได้
การรับสัญญาณไวไฟ เป้นที่น่าเสียดายอย่างหนึ่ง เพราะ Tablet รุ่นนี้ ยังไม่รองรับสัญญาณ Wifi แบบ 5G สูงสุดแค่เพียง 4G และWifi ทั่วไปเท่านั้น ขนาดของความจุแบตเตอรี่ สามารถเก็บไฟได้มากถึง 7,250 มิลลิแอมแปร์ มีหน่วยความจำในการเก็บข้อมูล 4 GB เรายังสามารถเพิ่มหน่วยความจำนอกได้ ราคาของแท็บเล็ตเครื่องนี้ ตกอยู่ที่ 13,000 บาท ถือว่าคุ้มค่าในการใช้งาน
Huawei nova Y70 มือถือรุ่นเริ่มต้นที่มาพร้อมสเปกคุ้มค่าในราคาไม่ถึง 6,000 บาท โดยมันมาพร้อมลักษณะเด่นจอภาพขนาดใหญ่ยักษ์ถึง 6.75 นิ้ว คมชัดระดับ HD+ ขับเคลื่อนการทำงานด้วยขุมพลังระดับ Octa Core ที่มีซีพียูแบบ 8 แกน พ่วงหน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB และมีกล้องหลังติดตั้งมาด้วยถึง 3 ตัว ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ความละเอียดสูงสุด 48MP พร้อมแบตเตอรี่อึดเหลือเฟือขนาด 6,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 22.5W ที่ชาร์จได้รวดเร็วทันใจ
Huawei nova Y70เดินทางมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมันมาพร้อมสเปกสุดคุ้ม ไม่ว่าจะเป็นจอภาพแบบ LCD ความกว้าง 6.75 นิ้ว คมชัดระดับ HD+ มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลที่ 260ppi และมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่ 84.1% ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ EMUI 12 (ไม่มี Google Play Services) ใช้ชิปเซ็ตแบบ Octa Core ที่มีประสิทธิภาพเหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุถึง 128GB (ใส่ microSD เพิ่มได้สุงสุด 512GB) พร้อมแบตเตอรี่อึดเหลือเฟือขนาด 6,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 22.5W ที่ชาร์จได้รวดเร็วทันใจ
ในส่วนของการถ่ายภาพมันก็มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ความคมชัด 48MP+5MP+2MP รองรับการถ่ายวิดีโอ FHD (1080p) ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ขนาด 8MP ใช้ดีไซน์ทรงหยดน้ำด้านบนหน้าจอ พร้อมระบบ AI ช่วยประมวลผลภาพ นอกจากนี้ ภายในตัวเครื่องยังติดตั้งลำโพง SuperSound ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมภาพยนตร์ เล่นโซเชียล และเล่นเกม สำหรับการเชื่อมต่อต่าง ๆ รองรับทั้ง Wi-Fi 802.11a/b/g/n, Bluetooth 5.1, USB Type-C 2.0 รวมถึงช่องเสียบสายหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร แถมยังติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องอีกด้วย
สำหรับ Huawei nova Y70มีกำหนดลงตลาดในบ้านเราอย่างเป็นทางการ วันที่ 15 มินายน ที่จะถึงนี้ โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีน้ำเงิน สนนราคาอยู่ที่ 5,999 บาทเท่านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาที่เหมาะสำหรับคนที่เน้นการใช้งานตลอดทั้งวัน เรียกได้ว่าใช้เล่นโซเชียลหรือรับชมคอนเทนต์บันเทิงต่าง ๆ ได้แบบสว่างคาตากันเลยทีเดียว
vivo T2 มือถือสเปกระดับน้อง ๆ เรือธงที่มาพร้อมจุดเด่นดีไซน์ตัวเครื่องแบบฝาหลังโค้ง และมีโมดูลกล้องที่นูนจากฝาหลังเล็กน้อย ส่วนเสปกอื่น ๆ คาดว่าจะใช้พาเนล AMOLED คมชัดระดับ FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz ขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปตัวรองท็อปอย่าง Snapdragon 870 5G ขนาด 7 นาโนเมตร ให้ขุมพลังถึง 3.2GHz และมีกล้องหลัง 3 ตัว ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ความละเอียดสูงสุด 64MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,700mAh รองรับระบบชาร์จไวระดับ 80W ที่สามารถชาร์จแบตจาก 0 – 100% ได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการส่ง vivo T1 ออกมาตีตลาดทั่วโลก ล่าสุดทาง vivo ก็ได้ส่งภาคต่ออย่าง vivo T2 ออกสู่ตลาดบ้าง โดยมันมาพร้อมจุดเด่นดีไซน์ตัวเครื่องแบบฝาหลังโค้ง ติดตั้งพาเนลแบบ AMOLED ความกว้าง 6.62 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลที่ 398ppi และรองรับ HDR10+ รันบนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบด้วยอินเทอร์เฟส Origin OS Ocean ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 870 5G ขนาด 7 นาโนเมตร ให้ขุมพลังสูงสุดถึง 3.2GHz เสริมด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุ 256GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,700mAh รองรับระบบชาร์จไวระดับ 80W ที่ว่ากันว่าสามารถชาร์จแบตจาก 0 – 100% ได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
ในส่วนของการถ่ายภาพมันมาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 64MP+8MP+2MP พ่วงระบบกันสั่น OIS รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ส่วนกล้องหน้ามีขนาด 16MP ใช้ดีไซน์เจาะรูด้านบนหน้าจอ นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อครบครัน ไล่ตั้งแต่ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, USB Type-C 2.0, NFC รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G ผ่าน Nano-SIM สำหรับ vivo T2มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ วันที่ 23 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีส้ม, สีฟ้า และสีไล่เฉด ส่วนจะมีการส่งออกไปทำตลาดยังต่างประเทศด้วยหรือไม่ หรือมีการจะส่งออกช่วงไหนนั้น คงต้องติดตามข่าวจากทาง vivo อีกทีหนึ่ง